การดูแลสุขภาพไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเลือกอาหารที่ดีหรือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแต่ยังรวมถึงสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่เรามองข้ามไปในชีวิตประจำวันหลายครั้งที่เราไม่รู้ว่าของใช้ใกล้ตัวเหล่านี้อาจเป็นต้นตอของปัญหาสุขภาพที่เราไม่คาดคิดได้เราจะพาคุณไปสำรวจของใช้ในบ้านที่คุณควรใส่ใจเป็นพิเศษเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนในครอบครัว
1.ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด : สารเคมีที่มองไม่เห็น
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านไม่ว่าจะเป็นน้ำยาทำความสะอาดพื้น,สเปรย์ปรับอากาศ,น้ำยาขัดห้องน้ำหรือน้ำยาต่างๆที่เอาไว้ทำความสะอาดล้วนมีส่วนผสมของสารเคมีที่หลากหลายบางชนิดอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังหรือดวงตาและระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะผู้ที่มีอาการแพ้หรือเป็นโรคหอบหืดการสะสมของสารเคมีเหล่านี้ในระยะยาวอาจส่งผลต่อสุขภาพได้
สิ่งที่คุณควรทำ
1.1เลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพควรมองหาสัญลักษณ์ Eco-friendly หรือ Non-toxic
1.2ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเช่น น้ำส้มสายชูหรือเบกกิ้งโซดาหรือน้ำมะนาว
1.3สวมถุงมือและหน้ากากทุกครั้งที่ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีสารเคมี
1.4เปิดหน้าต่างระบายอากาศเพื่อลดการสะสมของไอระเหยจากสารเคมี
2.เครื่องนอน : แหล่งสะสมไรฝุ่นและเชื้อโรค
หมอนหรือผ้าห่มหรือที่นอนและผ่าม่านเป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่นเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วและเชื้อโรคต่างๆซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคภูมิแพ้และปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจหรืออาการคัดจมูกหรือน้ำมูกไหลหรือไอหรือจามหรือแม้กระทั่งผื่นคันอาจเป็นสัญญาณว่าเครื่องนอนของคุณกำลังมีปัญหา
สิ่งที่คุณควรทำ
2.1ซักเครื่องนอนเป็นประจำควรซักผ้าปูที่นอนหรือปลอกหมอนอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้งและผ้าห่มทุก 2-4 สัปดาห์
2.2ใช้เครื่องนอนที่ป้องกันไรฝุ่นโดยเฉพาะผู้ที่เป็นภูมิแพ้
2.3ดูดฝุ่นที่นอนอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งหรือใช้เครื่องดูดไรฝุ่นโดยเฉพาะ
2.4นำเครื่องนอนออกตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคและลดความชื้น
3.ฟองน้ำและผ้าขี้ริ้ว : แหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรีย
ฟองน้ำล้างจานและผ้าขี้ริ้วเป็นสิ่งที่สัมผัสกับความชื้นและเศษอาหารอยู่ตลอดเวลาทำให้เป็นแหล่งเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อโรคต่างๆได้อย่างรวดเร็วการนำฟองน้ำหรือผ้าขี้ริ้วที่สกปรกมาใช้อาจเป็นการแพร่กระจายเชื้อโรคไปยังภาชนะหรือพื้นผิวอื่นๆในบ้านได้
สิ่งที่คุณควรทำ
3.1ล้างทำความสะอาดฟองน้ำและผ้าขี้ริ้วหลังใช้งานและบีบให้แห้งทุกครั้ง
3.2เปลี่ยนฟองน้ำและผ้าขี้ริ้วบ่อยๆอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์หรือเมื่อเริ่มมีกลิ่น
3.3นำไปต้มฆ่าเชื้อหรือนำเข้าไม่โครเวฟเป็นครั้งคราว
การใส่ใจกับของใช้ในบ้านเหล่านี้อาจต้องใช้เวลาและความพยายามเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ผลลัพธ์ที่ได้คือสุขภาพที่ดีขึ้นของทุกคนในครอบครัวลองสำรวจของใช้ในบ้านของคุณตั้งแต่วันนี้เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัยต่อสุขภาพในระยะยาว