ประเภทของคลังสินค้าแบ่งตามลักษณะดังต่อไปนี้
1.คลังสินค้าประเภทแบบธุรกิจ
1.1.คลังสินค้าสาธารณะ
เป็นคลังสินค้าที่ทางเจ้าของคลังให้บริการสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจของตนเอง หรือเป็นเจ้าของสินค้าจากที่ต่าง ๆ ในการนำสินค้าที่ตนเองมีอยู่นั้นมาเก็บรักษาเอาไว้ในคลังของทางผู้ให้บริการ เพื่อให้สภาพของตัวสินค้านั้นสมบูรณ์มากที่สุดก่อนจัดส่งให้ทางลูกค้า ซึ่งช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายของทางพ่อค้าแม่ค้าหรือผู้ทำธุรกิจ เพราะไม่ต้องเสียงบทำคลังสินค้าด้วยตัวเอง เพียงชำระเงินค่าเช่าให้กับทางผู้ให้บริการคลังสินค้าเท่านั้น ก็มีพื้นที่เก็บสินค้าของคุณแล้ว
1.2.ประเภทคลังสินค้าส่วนตัว
คลังส่วนตัวเป็นประเภทคลังสินค้าของทางเจ้าของธุรกิจ ทำให้สามารถที่จะเก็บสินค้าได้ทั้งหมดตามที่ต้องการ ซึ่งเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างใช้เงินจำนวนมาก แต่คุ้มค่าในระยะยาว พร้อมทั้งยังสามารถจัดการสินค้าในคลังของคุณได้อย่างง่ายดายด้วย ทำให้ทราบสถานะสินค้าในคลังได้ตลอด ขายและส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ทันทีที่ต้องการ
2.คลังสินค้าประเภทแบบแบ่งตามลักษณะของงาน
2.1 ศูนย์กระจายสินค้า
ศูนย์กระจายสินค้า หรือ Distribution Center เป็นพื้นที่สำหรับการกระจายสินค้าของธุรกิจพื้นที่ต่าง ๆ โดยจะรับแล้วนำมาเข้าคลังของตนเอง จากนั้นก็จะนำสินค้าของแต่ละกิจการ มากระจายไปยังลูกค้าของธุรกิจนั้น ซึ่งก็คือ การจัดส่งสินค้าให้กับทางลูกค้าแทนเจ้าของธุรกิจนั่นเอง
2.2 ศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า
เป็นอีกหนึ่ง ธุรกิจ E-Commerce เพราะศูนย์กระจายสินค้าถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการบริหารจัดการสินค้า โดยช่วยให้ธุรกิจจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าหรือร้านค้าได้อย่างรวดเร็วทันเวลา และเพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนใช้บริการ ศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้ามีประโยชน์เพื่อให้บริการกับร้านค้าและธุรกิจต่างๆ อย่างครบวงจรและรวดเร็ว
2.3 คลังสินค้าในเครือ
เป็นบริการสำหรับเจ้าของธุรกิจและเจ้าของผลิตภัณฑ์ ที่ใช้จัดเก็บ ตรวจสอบ และจัดส่งสินค้าให้กับเจ้าของสินค้าแบบครบวงจร เหมาะสำหรับบรรจุสินค้ามียี่ห้อ พร้อมทั้งให้บริการที่แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบข้อมูล การแพ็คสินค้า หรือ การจัดส่งสินค้าให้กับปลายทาง รวมถึงการติดตามผลพัสดุ
2.4 คลังสินค้าแบบบริหารจัดการ
เป็นคลังที่รวมสินค้าที่ทำหน้าที่ในการรับสินค้าจากธุรกิจต่างๆที่ใช้บริการเข้ามาจัดเก็บไว้ เพื่อนำมาดูแลและจัดการ ทั้งการแพ็คสินค้า และ การจัดส่งสินค้าให้กับธุรกิจออนไลน์อย่างครบวงจร ซึ่งแน่นอนว่าการจะสามารถจัดการงานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังจำเป็นจะต้องมีคลังสินค้าหรือ Warehouse เพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้าและดำเนินการด้วย ทำให้มีบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่การจัดเก็บ การแพ็คสินค้า และ การจัดส่งสินค้าไว้ในที่เดียวกัน
3. คลังสินค้าที่แบ่งตามประเภทสินค้าที่เก็บ
3.1 คลังสินค้าประเภททั่วไป
เป็นพื้นที่สำหรับการจัดเก็บรักษาสินค้า เช่น อุปกรณ์ต่างๆ เครื่องมืองานช่าง หรือสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ โดยอาจจะมีการจัดหมวดหมู่ของสินค้า มีการแยกประเภทสินค้า เพื่อสะดวกต่อการจัดระเบียบสต๊อกคลัง
3.2 คลังสินค้าประเภทของสด
เป็นพื้นที่จัดเก็บสินค้าที่เก็บอาหารสด หรือ วัตถุดิบที่สด เช่น ผักผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล คลังสินค้าประเภทนี้จะมีการควบคุมอุณกภูมิเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้สินค้าเกิดความเสียหาย โดยส่วนใหญ่จะนิยมใช้เป็นคลังห้องเย็น
3.3 คลังสินค้าประเภทสินค้าอันตราย
เป็นพื้นที่คลังสินค้าสำหรับใช้จัดเก็บสิ่งของอันตราย เช่น สารเคมี ยาอันตราย วัตถุไวไฟ เป็นต้น โดยเจ้าของสินค้าต้องมีการเก็บตามหลักมาตรฐานที่ระบุไว้อย่างเคร่งครัด ต้องมีระบบควบคุมและต้องได้รับอนุญาติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3.4 คลังสินค้าชนิดพิเศษ
เป็นคลังที่ใช้ในการเก็บยา สารเคมีบางชนิด ต้องควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสม ต้องขออนุญาตก่อนเปิดคลังสินค้าประเภทนี้ของตนเอง เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายนั่นเอง