ชั้นวางของควรเลือกจำนวนกี่ชั้นดี?

เวลาที่เราจะซื้อชั้นวางของสิ่งที่หลายคนมักจะนึกถึงก่อนคือความแข็งแรง ทนทาน และขนาดความกว้าง–ความสูง แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ จำนวนชั้นเพราะจำนวนชั้นจะเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะสามารถเก็บของได้มากน้อยแค่ไหนใช้งานสะดวกหรือไม่และยังส่งผลต่อการจัดวางพื้นที่ในบ้านด้วย หากเลือกไม่เหมาะสมก็อาจทำให้ชั้นวางนั้นกลายเป็นเกะกะมากกว่าเป็นตัวช่วย

ทำไมจำนวนชั้นถึงสำคัญ?
1. พื้นที่ในการจัดเก็บ – จำนวนชั้นที่มากขึ้น หมายถึงพื้นที่แนวตั้งที่เพิ่มขึ้นสามารถเก็บของได้เยอะขึ้นโดยไม่ต้องใช้พื้นที่กว้าง แต่ถ้ามากเกินไปจนไม่จำเป็นอาจทำให้ บ้านดูแน่นและรก
2.การหยิบใช้งาน – ถ้าชั้นสูงเกินไปอาจหยิบของด้านบนยากหรือถ้าเตี้ยเกินไปอาจต้องก้มบ่อยๆทำให้ใช้งานไม่สะดวก
3.ความเหมาะสมกับห้อง – แต่ละห้องในบ้านมีลักษณะการใช้งานไม่เหมือนกัน เช่น ห้องครัวเน้นเก็บของใช้ประจำวัน ห้องเก็บของเน้นความจุเยอะ ห้องนอนเน้นความเป็นระเบียบและสวยงามดังนั้นจำนวนชั้นที่เหมาะก็จะแตกต่างกัน

เคล็ดลับการเลือกจำนวนชั้นให้เหมาะ
1. สำรวจสิ่งของก่อนซื้อ – ของที่คุณจะเก็บมีจำนวนและน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นของเล็กๆหยิบใช้บ่อยไม่จำเป็นต้องเลือกหลายชั้น แต่ถ้าเป็นของเยอะและหนัก ควรเลือกชั้นที่สูงและแข็งแรง
2. ดูความสูงของห้องและผู้ใช้งาน – ถ้าห้องเพดานต่ำหรือคนในบ้านตัวเล็ก การเลือกชั้น 5–6 ชั้นอาจไม่สะดวก แต่ถ้าห้องสูงและต้องการใช้พื้นที่ให้คุ้มก็สามารถเลือกชั้นสูงได้
3. การจัดวางพื้นที่ – ห้องเล็กควรเลือกชั้นเตี้ยและจำนวนชั้นน้อย เพื่อไม่ให้ห้องดูอึดอัดส่วนห้องเก็บของหรือโรงรถสามารถใช้ชั้นสูงได้เต็มที่
4. ความสวยงามในการตกแต่ง – ถ้าเป็นห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน ชั้นที่สูงเกินไปอาจทำให้ห้องดูทึบตันเลือกชั้นที่มีสัดส่วนพอดีกับเฟอร์นิเจอร์อื่นๆจะช่วยให้ห้องดูโปร่งสบายกว่า

1.ชั้นวางของ 3 ชั้น
เป็นเฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์จัดเก็บที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีขนาดกำลังพอดีไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไปใช้งานได้ทั้งในบ้านและสำนักงานเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นระเบียบแต่มีพื้นที่ใช้สอยไม่มากนัก

ขนาดและรูปแบบ

  • โดยทั่วไปมีความสูงประมาณ 50–120 ซม. กำลังพอดีกับระดับสายตา
  • มีพื้นที่เก็บของ 3 ระดับ แยกชั้นอย่างชัดเจน
  • ทำจากวัสดุคือ เหล็ก จะมีความแข็งแรง ทนทาน และรับน้ำหนักได้มากกว่า

เหมาะกับพื้นที่แบบไหน

  • ห้องนั่งเล่น: วางหนังสือ ของตกแต่ง แจกันหรือกรอบรูป
  • ห้องครัว: ใช้เก็บอุปกรณ์ทำอาหาร ขวดเครื่องปรุงและเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กเช่น หม้อหุงข้าว ไมโครเวฟ
  • ห้องนอน: ใช้วางกล่องเก็บของ ตะกร้าหรือของใช้ประจำวัน
  • คอนโดหรือหอพัก: เหมาะเพราะไม่กินพื้นที่และสามารถจัดวางในมุมเล็กๆได้

ข้อดี
1.ขนาดกะทัดรัด : ไม่สูงหรือใหญ่จนเกินไป เคลื่อนย้ายง่าย
2.หยิบจับสะดวก : ของทุกชั้นอยู่ในระดับที่เอื้อมถึงโดยไม่ต้องใช้บันไดหรือเก้าอี้
3.จัดระเบียบได้ดี : 3 ชั้นทำให้แยกประเภทการเก็บของได้ชัดเจน เช่น ชั้นบนสุดวางของตกแต่ง ชั้นกลางวางของใช้ประจำวัน ชั้นล่างเก็บของหนัก

2.ชั้นวางของ 4 ชั้น
ถือว่าเป็นขนาดกลางที่ได้รับความนิยมมาก เพราะให้พื้นที่จัดเก็บมากกว่าชั้น 2–3 ชั้น แต่ก็ยังไม่สูงจนเกินไปสามารถวางในบ้าน คอนโดหรือสำนักงานได้โดยไม่ทำให้พื้นที่ดูอึดอัด

ขนาดและรูปแบบ

  • ความสูงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 120–180 ซม.
  • มี 4 ระดับชั้น ทำให้แบ่งสัดส่วนในการจัดเก็บได้มากขึ้น
  • ทำจากวัสดุคือ เหล็ก จะมีความแข็งแรง ทนทานและรับน้ำหนักได้มากกว่า

เหมาะกับพื้นที่แบบไหน

  • ห้องนั่งเล่น: จัดวางหนังสือ ของสะสม ของตกแต่ง แจกันหรือกรอบรูปให้เป็นสัดส่วน
  • ห้องครัว: ใช้เก็บเครื่องครัว เครื่องปรุงและอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดกลาง เช่น หม้อทอดไร้น้ำมัน หม้อหุงข้าวหรือเตาไฟฟ้า
  • ห้องนอน/คอนโด: เก็บกล่องเสื้อผ้า กล่องเก็บของ เครื่องสำอางหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เล็กๆ

ข้อดี
1.พื้นที่เก็บของมากขึ้น : 4 ชั้นช่วยให้จัดระเบียบของได้เป็นหมวดหมู่มากกว่า 2–3 ชั้น
2.ความสูงกำลังดี : ไม่สูงจนเกินไป หยิบของได้ง่ายโดยไม่ต้องปีนเก้าอี้
3.ความคุ้มค่า : ราคามักไม่ต่างจากชั้น 3 ชั้นมาก แต่ได้พื้นที่เพิ่มขึ้น 1 ชั้นเต็มๆ

3.ชั้นวางของ 5 ชั้น
เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับบ้านหรือสำนักงานที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บมากและอยากจัดระเบียบสิ่งของให้เป็นหมวดหมู่ชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่มีของใช้จำนวนมากหรือมีพื้นที่วางเพียงจุดเดียวแต่ต้องการเก็บของหลายประเภทในชั้นเดียว

ขนาดและรูปแบบ

  • ความสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 160–180 ซม.
  • มีทั้งหมด 5 ระดับชั้น จัดเก็บของได้มากกว่าชั้น 3–4 ชั้นชัดเจน
  • ทำจากวัสดุคือ เหล็ก จะมีความแข็งแรง ทนทานและรับน้ำหนักได้มากกว่า

เหมาะกับพื้นที่แบบไหน

  • ห้องนั่งเล่น/ห้องรับแขก: ใช้เก็บหนังสือ ของสะสม ของตกแต่งหรือเครื่องเสียง
  • ห้องครัว: จัดเก็บหม้อ กระทะ อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องปรุงและของแห้งได้เป็นสัดส่วน
  • ห้องนอน/คอนโด: เก็บกล่องเสื้อผ้า รองเท้าหรืออุปกรณ์ใช้ส่วนตัวจำนวนมาก

ข้อดี
1.พื้นที่จัดเก็บเยอะที่สุด เมื่อเทียบกับชั้นวาง 2–4 ชั้น
2.จัดหมวดหมู่ของได้ง่าย เช่น ชั้นบนสุดเก็บของตกแต่ง ชั้นกลางเก็บของใช้ประจำวัน ชั้นล่างเก็บของหนัก
3.ความคุ้มค่าในระยะยาว เพราะใช้ชั้นเดียวแทนการซื้อหลายชั้นเล็กๆ

4.ชั้นวางของ 6 ชั้น
เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีของใช้จำนวนมากหรือพื้นที่จัดเก็บจำกัดในแนวนอน แต่ต้องการใช้พื้นที่แนวตั้งให้เต็มประสิทธิภาพเหมาะสำหรับบ้าน สำนักงานหรือห้องเก็บของที่ต้องการจัดระเบียบหลายประเภทในจุดเดียว

ขนาดและรูปแบบ

  • ความสูงโดยทั่วไปอยู่ที่ 180–195 ซม.
  • มีทั้งหมด 6 ชั้น ทำให้สามารถเก็บของได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับชั้น 2–5 ชั้น
  • ทำจากวัสดุคือ เหล็ก จะมีความแข็งแรง ทนทานและรับน้ำหนักได้มากกว่า

เหมาะกับพื้นที่แบบไหน

  • ห้องเก็บของ/ห้องเก็บเอกสาร: จัดเก็บกล่องเอกสาร เครื่องมือหรือสต็อกสินค้า
  • ร้านค้า/สำนักงาน: ใช้เก็บสินค้า เอกสารหรืออุปกรณ์จำนวนมาก
  • บ้านที่ของเยอะ: เช่น ห้องนอนที่ต้องเก็บเสื้อผ้า กล่องเก็บของ ของใช้ประจำวันและของตกแต่งในชั้นเดียว

ข้อดี
1.พื้นที่เก็บของมากที่สุด เหมาะสำหรับการจัดเก็บจำนวนมากในพื้นที่จำกัด
2.จัดหมวดหมู่ได้ละเอียด เช่น ชั้นบนสุดวางของโชว์ ชั้นกลางวางของใช้ประจำวัน ชั้นล่างเก็บของหนัก
3.คุ้มค่า เพราะใช้ชั้นเดียวแทนการซื้อหลายชั้นขนาดเล็ก

Leave a Comment