ชั้นวางเหล็กในธุรกิจออนไลน์

ประเภทของชั้นวางเหล็กที่เหมาะสมกับธุรกิจออนไลน์

ชั้นวางสินค้าขนาดเล็ก หรือ ชั้นเหล็กอเนกประสงค์

  • เหมาะสำหรับสินค้าขนาดเล็กถึงกลางที่น้ำหนักไม่มาก รับน้ำหนักได้ประมาณ 100 – 250 กก.ต่อชั้น โครงสร้างไม่ซับซ้อน มักเป็นแบบ Knock-Down ถอดประกอบง่าย และสามารถปรับระดับชั้นได้
  • เหมาะสำหรับธุรกิจออนไลน์ที่มีปริมาณสินค้าเยอะแต่เป็นชิ้นเล็กๆ หรือของใช้สำนักงานที่เบา เช่น เครื่องสำอาง อุปกรณ์เสริม โทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้าพับ หรือสินค้าที่เก็บในกล่องกระดาษขนาดเล็กถึงกลาง ช่วยให้จัดเก็บสินค้าได้เป็นระเบียบและหยิบง่าย

ชั้นวางสินค้าขนาดกลาง

  • มีความแข็งแรงมากขึ้น สามารถรับน้ำหนักได้ประมาณ 250 – 500 กก.ต่อชั้น เหมาะสำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักปานกลางหรือสินค้าขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย
  • เหมาะสำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักมากขึ้น เช่น อะไหล่ เครื่องมือช่างขนาดเล็ก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือสินค้าที่มีปริมาณมากที่ต้องเก็บในคลังขนาดเล็กถึงกลาง

ชั้นวางซ้อนหลายชั้น หรือ ชั้นลอย

  • เป็นการใช้พื้นที่ในแนวสูงอย่างเต็มที่ โดยสร้างเป็นชั้นวางสินค้าขนาดกลางหรือเล็กซ้อนกันตั้งแต่ 2ชั้นขึ้นไป พร้อมมีบันไดและทางเดินเชื่อมต่อ มักจะมีการออกแบบที่สามารถถอดประกอบ เพิ่มหรือลดชั้นได้
  • เหมาะมากสำหรับธุรกิจออนไลน์ที่มีพื้นที่จัดเก็บจำกัดในแนวราบ แต่มีความสูงเพดานมาก ช่วยให้เพิ่มพื้นที่เก็บสต็อกสินค้าได้หลายเท่าตัว ทำให้จัดเก็บสินค้าได้หลากหลาย SKU และรองรับการเติบโตของธุรกิจได้ดี

Selective Rack การใช้พาเลท

  • เป็นชั้นวางพาเลทที่สามารถเข้าถึงสินค้าได้ทุกพาเลทโดยตรง เข้าถึงได้ 100กก.
  • หากธุรกิจมีการสั่งซื้อสินค้ามาเก็บในปริมาณมากจนต้องเก็บในรูปแบบพาเลท จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะช่วยให้เข้าถึงสินค้าที่หลากหลายและมีการหมุนเวียนสูงได้สะดวก
ชั้นวางเหล็กอุตสาหกรรมมักจะนิยมใช้กันอย่างมากในการเก็บสต็อคสินค้าในโกดัง
ชั้นวางเหล็กอุตสาหกรรมรับน้ำหนักสินค้าที่มีน้ำหนักมาก
ชั้นวางอุตสาหกรรมเป็นชั้นวางขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อรับน้ำหนักสินค้าที่มีน้ำหนักมาก

การออกแบบผังคลังสินค้าและชั้นวางเพื่อประสิทธิภาพการหยิบสินค้า

  • การจัดโซนสินค้า และ การจัดการ ในการใช้ชั้นวางเหล็กในการแบ่งพื้นที่จัดเก็บตามความถี่ในการหยิบ เพื่อลดระยะทางเดินของพนักงาน
  • Ergonomics และความปลอดภัย การออกแบบความสูงและช่องทางเดินของชั้นวางเหล็กให้สอดคล้องกับการทำงานของมนุษย์ เพื่อลดความเหนื่อยล้าและเพิ่มความปลอดภัย
  • การบูรณาการกับเทคโนโลยี การติดตั้งชั้นวางเหล็กให้รองรับระบบ Pick-to-Light หรือการใช้รถเข็นอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการหยิบ

หลักการสำคัญในการออกแบบผังคลังสินค้า

1. การไหลของสินค้า

  • ผังแบบเส้นตรง จุดรับสินค้า และ จุดจัดส่ง อยู่คนละด้านของอาคาร สินค้าเคลื่อนที่ไปข้างหน้าจากรับเข้าสู่จัดเก็บและจัดส่ง เหมาะสำหรับคลังสินค้าที่มีปริมาณสินค้าเข้า-ออกสูง
  • ผังแบบตัว U จุดรับสินค้าและจัดส่งอยู่ด้านเดียวกันหรือใกล้กัน สินค้าไหลวนเป็นรูปตัว U มักใช้เมื่อต้องการใช้ประตูเดียวกันในการเข้าและออก

2. การจัดโซนพื้นที่ แบ่งพื้นที่คลังสินค้าออกเป็นโซนตามหน้าที่การใช้งานอย่างชัดเจน

  • พื้นที่รับสินค้า
  • พื้นที่จัดเก็บ
  • พื้นที่หยิบสินค้า
  • พื้นที่เตรียมจัดส่ง
  • ทางเดินและทางสัญจร

3. การกำหนดตำแหน่งจัดเก็บสินค้า ใช้เทคนิคการวิเคราะห์ตามหลักการ ABC ในการจัดเรียงสินค้า

  • สินค้ากลุ่ม C สินค้าที่มีความถี่ในการหยิบต่ำที่สุด สามารถวางไว้ในพื้นที่จัดเก็บที่เข้าถึงยากกว่า เช่น ชั้นวางด้านบนสุดหรือด้านในสุดของคลังสินค้า เพื่อสงวนพื้นที่ที่มีค่าไว้สำหรับกลุ่ม A และ B
  • สินค้ากลุ่ม A สินค้าที่มีความถี่ในการหยิบสูง ควรวางไว้ในตำแหน่งที่ใกล้กับพื้นที่จัดส่งมากที่สุดและเข้าถึงได้ง่าย ระดับเอวหรือระดับที่หยิบง่าย เพื่อลดระยะทางการเดินหยิบ
  • สินค้ากลุ่ม B สินค้าที่มีความถี่ในการหยิบปานกลาง วางอยู่ถัดออกไป

ข้อแนะนำเพิ่มเติมในการเลือกสำหรับธุรกิจออนไลน์
ประเมินประเภทและน้ำหนักสินค้าเลือกประเภทชั้นวางที่รับน้ำหนักได้เหมาะสมกับสินค้าที่ขาย พิจารณาพื้นที่หากมีพื้นที่น้อยแต่เพดานสูง ควรพิจารณา Multi-Tier Shelving การหยิบและแพ็คสินค้าชั้นวางควรออกแบบมาให้พนักงานสามารถเข้าถึงและหยิบสินค้า ได้ง่ายและรวดเร็ว เพื่อให้กระบวนการ Fulfillment เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

Leave a Comment