Skip to content
- โดยทั่วไปการเลือกชั้นวางของเหล็ก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ แบบเหล็กฉากและแบบพรีเมียม ซึ่งทั้ง 2 ประเภทมีลักษณะรวมทั้งข้อดีข้อด้อยในการใช้งานที่แตกต่างกัน
- 1. ชั้นวางของเหล็กฉาก
ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งาน ประกอบง่าย ทนทานและเคลื่อนย้ายง่าย รับน้ำหนักได้สูงถึง 50 kg เหมาะสำหรับใช้ในบ้าน เช่น ห้องเก็บของ หรือร้านขายอุปกรณ์ต่าง ๆ ใช้วางเครื่องมือช่างในโรงงานอุตสาหกรรม และอื่น ๆ
ชั้นวางเหล็กประเภทนี้จะต้องใช้อุปกรณ์ในการประกอบชั้นวางเพราะตัวโครงสร้างของชั้นวางเหล็กนั้นจะใช้น็อตยึดเป็นหลักไม่สามารถปรับระดับชั้นวางได้ตามที่ต้องการ
ต้องวัดระยะระหว่างชั้นวางให้ดี ตัวชั้นวางเหล็กนี้มีน้ำหนักค่อนข้างเบา เหมาะใช้สำหรับในบ้านและคอนโด แต่ข้อดีของชั้นวางคือมั่นคง ทนทาน แข็งแรง
จึงเป็นที่นิยมใช้ในห้องเก็บของภายในบ้านแต่อาจจะเป็นข้อเสียของคนที่อยู่คนเดียวเพราะต้องใช้อุปกรณ์ในการประกอบ และ ใช้น็อตประกอบชั้นวางเหล็กรุ่นนี้
ข้อดีคือประกอบง่าย เป็นชั้นเหล็กหลายขนาด และขนาดเบา ชั้นเหล็กฉากรับน้ำหนักได้พอประมาณ
- 2. ชั้นเหล็กวางของหนัก
ประเภทนี้ มีดีไซน์ที่มีการออกแบบให้รับน้ำหนักมาก มีหลายขนาด ทั้งความกว้างและจำนวนชั้น ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย พร้อมฟังก์ชันการถอดประกอบที่ง่าย ปรับระดับความห่างในแต่ละชั้นได้ตามความต้องการโดยทั่วไปชั้นวางของเหล็กหนัก นอกจากจะมีดีไซน์ที่ถูกออกแบบให้แข็งแรง
การเลือกชั้นวางของเหล็กให้เหมาะกับการใช้งานนอกจากเลือกตามประโยชน์ใช้สอยเพียงอย่างเดียว อาจเลือกที่ประกอบง่ายเคลื่อนย้ายสะดวก เน้นความทนทาน
ชั้นเหล็ก เหมาะสำหรับวางของหนัก มีให้เลือกหลายขนาด หลายชั้น ถอดประกอบง่าย ปรับชั้นได้ตามความต้องการใช้งาน
ตัวชั้นเหล็กมีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้มากถึง1,000กก. ชั้นวางเหล็กประเภทนี้นิยมใช้จัดการสต็อกในคลังสินค้าให้เป็นระเบียบ
เป็นที่นิยมใช้งานในงานคลังสินค้า โกดังสินค้า รูปแบบของเสาชั้นวางที่สามารถต่อชั้นวางได้ยาวพอดีกับพื้นที่คลังสินค้า ความสูงที่กำลังดี