ตะแกรงเหล็ก คืออะไร มีกี่ประเภทและต่างกันอย่างไร

ตะแกรงเหล็ก (Steel Mesh) โดยทั่วไป หมายถึง โครงสร้างที่ประกอบขึ้นจากเส้นเหล็กหลายเส้นที่เชื่อมต่อกันด้วยเทคนิคต่างๆ เพื่อสร้างโครงราบหรือโครงสามมิติ วัสดุชนิดนี้มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกดดันและสามารถรองรับน้ำหนักได้ดีทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในหลายรูปแบบ

ตะแกรงเหล็กถูกนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรมและงานประยุกต์ เช่น

  • งานก่อสร้างและขนส่ง: ใช้เป็นโครงสร้างเสริมความแข็งแรง เช่น การเสริมคอนกรีต เสาเข็ม หรือพื้นคอนกรีต และใช้ในงานทางวิศวกรรมขนส่ง เช่น รั้วขอบทางหรือกรงล้อมอุปกรณ์
  • การทำรั้วและสิ่งกีดขวาง: ใช้ในรั้วบ้าน โรงงาน หรือสนามกีฬา เพื่อความปลอดภัยและการจัดการพื้นที่
  • การจัดแสดงสินค้าและตกแต่ง: ใช้สำหรับชั้นวางของสินค้า แผงโชว์สินค้าหรือแผงตกแต่งภายในและภายนอกอาคาร
  • การกรองและคัดแยก: ใช้ในงานอุตสาหกรรม เช่น การกรองวัสดุ การคัดแยกเม็ดวัสดุ หรือระบบระบายอากาศ
  • การป้องกันและความปลอดภัย: ใช้ทำตะแกรงป้องกันสิ่งของหล่น ชั้นค้ำยันอุปกรณ์สำคัญ หรือใช้เป็นตาข่ายป้องกันสัตว์

ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทานต่อแรงดัน และรองรับน้ำหนักได้ดี ตะแกรงเหล็กจึงเป็นวัสดุที่สำคัญทั้งในงานอุตสาหกรรมและการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ทั้งด้านความปลอดภัย การใช้งานยาวนาน และความยืดหยุ่นในการออกแบบ

ตะแกรงลวด ตะแกรงเหล็ก ชั้นวางของ ชั้นวางของภายในบ้าน

1. ตะแกรงเหล็กทอหรือบางครั้งเรียกว่าผ้าตะแกรงเหล็ก (Wire Cloth) หรือผ้าทอตะแกรงเหล็ก (Woven Wire Fabric) มีลวดลายที่แม่นยำจากการทอลวดเหล็กไขว้กัน คล้ายกับการทอผ้า โดยทั่วไป แผ่นลวดที่แข็งแรงจะถูกสร้างขึ้นโดยการสานลวดเหล็ก “ขึ้น-ลง” กับลวดตั้งฉากอีกชุดหนึ่ง ซึ่งเรียกว่าPlain Weave Mesh สำหรับงานที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงขึ้น จะใช้ลวดลายTwill Weave ซึ่งลวดสานข้ามลวดคู่หนึ่งแล้วสอดใต้ลวดคู่ถัดไป ทำให้แผ่นตะแกรงมีความนุ่มและยืดหยุ่นมากขึ้น

ตะแกรงเหล็กทอมีหลายขนาดทั้งจำนวนตาข่าย(Mesh Count),ขนาดเส้นลวด(Wire Gauge)และขนาดช่องว่าง(Opening Size) ทำให้เหมาะกับการใช้งานในการกรอง (Filtration), การร่อน (Sieving), การคัดแยก (Screening)และการแยกวัตถุ(Separation) ในอุตสาหกรรมต่างๆเช่น การทำเหมืองแร่ อาหาร เคมีและเภสัชกรรมคุณสมบัติที่ปรับแต่งได้ง่ายแข็งแรงสูงและคงรูปได้ดี ทำให้ตะแกรงเหล็กทอเป็นวัสดุสำคัญทั้งในงานอุตสาหกรรมและงานตกแต่ง

ตะแกรงเหล็กขยาย ตะแกรงSale สินค้า กะบะเซลล์สินค้า

2.ตะแกรงเหล็กขยาย (Expanded Wire Mesh / Expanded Metal Mesh / Expanded Sheet Metal)
ตะแกรงเหล็กขยายหรือที่เรียกอีกชื่อว่าตะแกรงโลหะขยายหรือแผ่นโลหะขยาย เกิดจากการนำแผ่นโลหะเข้าสู่เครื่องขยายซึ่งเครื่องจักรจะทำการตัดและดึงแผ่นโลหะพร้อมกันเพื่อสร้างลวดลายของตะแกรง กระบวนการผลิตนี้ทำให้ได้แผงตะแกรงที่มีช่องว่างรูปเพชรหรือหกเหลี่ยมสม่ำเสมอ มีโครงสร้าง แข็งแรง ทนทานและสม่ำเสมอเหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมและงานสถาปัตยกรรมหลากหลายประเภท

ตะแกรงเหล็กขยายมีจำหน่ายในรูปแบบและโลหะต่างๆเช่น เหล็กกล้าคาร์บอน เหล็กสแตนเลสและอะลูมิเนียม ตะแกรงเหล่านี้เชื่อมง่ายทนต่อการกัดกร่อนและมีอายุการใช้งานยาวนาน เมื่อเปรียบเทียบกับโลหะเจาะรู ตะแกรงขยายให้การระบายอากาศและการไหลของอากาศดีกว่า จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการการระบายความร้อนหรือควบคุมอุณหภูมิ

ตะแกรงSaleสินค้า ตะแกรงเหล็ก ซี่ลวด

3.ตะแกรงลวดเคลือบไวนิล (Vinyl Wire Mesh)
เพื่อสร้าง กำแพงป้องกันที่แข็งแรงยิ่งขึ้น จะมีการเคลือบไวนิลหรือ PVC บนตาข่ายลวดแบบเชื่อมหรือทอ ตาข่ายลวดเคลือบไวนิลหรือที่เรียกว่าPVC coated wire mesh เพิ่มความทนทานต่อ แรงกระแทก รอยขีดข่วน การสึกหรอและสภาพอากาศที่รุนแรง ขณะเดียวกันยังคง ความยืดหยุ่นในช่วงอุณหภูมิกว้าง

เนื่องจากการเคลือบไวนิล จึงมักถูกเรียกว่าตาข่ายพลาสติก(Plastic Mesh) ซึ่งตาข่ายประเภทนี้มีทั้งความทนทานและรูปลักษณ์สวยงาม พร้อมทนต่อสนิมการกัดกร่อนและรังสียูวี ชั้นไวนิลช่วยให้ผิวเรียบเนียนและมีสีสันหลากหลายเหมาะสำหรับการใช้งานรั้วเชิงพาณิชย์ ที่อยู่อาศัยและเกษตรกรรม การเคลือบยังช่วยปกป้องลวดโลหะพื้นฐานจากปัจจัยแวดล้อมเช่น ความชื้นและสารเคมี ทำให้อายุการใช้งานของตาข่ายยาวนานขึ้นแม้ใช้งานกลางแจ้งหรือในสภาพแวดล้อมทางทะเล

ตะแกรงลวดชุบสังกะสี ตะแกรงSale สินค้า กะบะเซลล์สินค้า

4.ตะแกรงลวดชุบสังกะสี (Galvanized Wire Mesh)
ตะแกรงลวดชุบสังกะสีผลิตจากลวดเหล็กคาร์บอนหรือเหล็กดิบ ซึ่งได้รับการปกป้องด้วย ชั้นสังกะสี ผ่านกระบวนการจุ่มร้อน (Hot-dip Galvanizing)หรือชุบสังกะสีด้วยไฟฟ้า (Electro-galvanizing) ชั้นสังกะสีนี้ช่วยให้ทนต่อการกัดกร่อนและสนิมได้อย่างยอดเยี่ยมทำให้ตาข่ายชุบสังกะสีเหมาะสำหรับใช้งานกลางแจ้งและในสภาพแวดล้อมรุนแรง

ตะแกรงลวดชุบสังกะสีสามารถผลิตได้ทั้ง แบบทอและแบบเชื่อม โดยจะทำการชุบสังกะสี หลังจากการทอหรือเชื่อม เพื่อให้ได้ความทนทานสูงสุด ตาข่ายชนิดนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายใน งานอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์ เช่น แผงกันหน้าต่าง แผงเติมเต็ม รั้วโรงเรือนและสวน รั้วสัตว์เลี้ยงในเกษตรกรรม รั้วรอบขอบเขตและก่อสร้างและอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย

ตะแกรงลวดสแตนเลส ตะแกรงเซลล์สินค้า กะบะเซลล์สินค้า

5.ตะแกรงลวดสแตนเลส (Stainless Steel Wire Mesh)
ตะแกรงลวดสแตนเลสโดดเด่นด้วยความต้านทานการกัดกร่อนสูง ความแข็งแรงและอายุการใช้งานยาวนานรวมถึงคุณสมบัติเด่นทั้งหมดของอัลลอยสแตนเลสแตกต่างจากเหล็กทั่วไปตะแกรงลวดสแตนเลสไม่เป็นสนิมแม้สัมผัสกับความชื้นหรือสารเคมีรุนแรง เนื่องจากมีส่วนผสมของโครเมียมและธาตุอัลลอยอื่นๆซึ่งช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชันและคราบต่างๆได้อย่างยาวนาน

ตะแกรงลวดสแตนเลสได้รับความนิยมในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานสูงเช่น การผลิตน้ำมันและก๊าซ สภาพแวดล้อมทางทะเล การผลิตอาหารและเครื่องดื่ม การประมวลผลสารเคมี การบำบัดน้ำและการกรองยา ตาข่ายสามารถผลิตได้ทั้งแบบเชื่อมและแบบทอ ขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของโครงการ

การผลิตตาข่ายโลหะ (Production of Metal Mesh) เหล็กที่ได้จากธาตุเหล็ก(Iron-Derived Steel) มีคุณสมบัติเด่นหลายประการ โดยเฉพาะสเตนเลสสตีล (Stainless Steel) ที่ทนต่อการเกิดสนิมและแข็งแรงทนทานสูง ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานในหลายอุตสาหกรรมลวดเหล็ก (Steel Wires) เป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับการผลิตตาข่ายลวด (Wire Mesh)และผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันเนื่องจากมีคุณสมบัติยืดหยุ่น แข็งแรง และดัดโค้งได้ง่าย ตาข่ายลวดถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เหล็กเก่าแก่ที่สุด มีการใช้งานมายาวนานหลายพันปีและเมื่อเศรษฐกิจโลกเติบโต การใช้งานตาข่ายลวดก็ขยายไปสู่หลายด้าน เช่น

  • รั้ว (Fencing)
  • แผงกั้น (Barricades)
  • ฝาครอบเครื่องจักร (Safety Covers)
  • กรงสัตว์ (Cages)
  • ตะแกรงหรือสกรีน (Grills/Sifters)
  • ชั้นวางของ (Shelving Solutions)

ตาข่ายลวดเชื่อมเหล็ก (Iron Welded Wire Mesh) เป็นวัสดุสำคัญในการเสริมความแข็งแรงคอนกรีต(Concrete Reinforcement) บริษัทผู้ผลิตลวดเหล็กจะส่งลวดไปยังผู้ผลิตขั้นที่สอง ซึ่งจะเปลี่ยนลวดเหล่านี้ให้เป็นตาข่ายด้วยเทคนิคการสานหรือเชื่อม

ข้อพิจารณาในการออกแบบตาข่ายโลหะ
1.คุณสมบัติสำคัญของตะแกรง เช่น ระยะห่างของลวด, ขนาดช่อง (aperture size), และจำนวนตาข่าย (mesh count) จะถูกกำหนดโดย การใช้งาน บางครั้งจะกำหนดโดยขนาดตาข่าย บางครั้งโดยขนาดช่อง
2.ลักษณะการสร้างไม่ว่าจะเป็นทอ(woven)หรือเชื่อม(welded) มีผลอย่างมากต่อความแข็งแรงและอายุการใช้งานของตะแกรง โดยตะแกรงลวดเชื่อม (welded wire mesh) มักมีคุณสมบัติเด่นกว่า
3.ลวดลายการสาน(weaving pattern) มีผลต่อความแข็งแรงและความทนทานของตะแกรงลวดทอชนิดต่างๆ
4.สภาพการใช้งานเช่น ความชื้น, สภาพแห้ง/เปียก, การสัมผัสความร้อนหรือการใช้งานในสภาพแวดล้อมทางทะเล มีผลต่อการเลือกวัสดุโลหะหรืออัลลอย
5.การเลือกวัสดุยังขึ้นอยู่กับสื่อที่ผ่านตะแกรง เช่น ของเหลวข้น, ผงแห้งที่ไม่ทำปฏิกิริยา, สารเคมีกัดกร่อนหรือกรด
6.ขนาดเส้นลวด (wire diameter) เป็นคุณสมบัติสำคัญ ซึ่งอาจเป็นแบน, กลมหรือเป็นเส้นริบบิ้น มีระบบวัดขนาดเส้นลวดหลายแบบดังนั้นจึงควรกำหนดขนาดลวดเป็นตัวเลขใน นิ้วหรือไมครอน เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน
7.จำนวนตาข่าย (mesh count)หรือจำนวนลวดต่อหน่วยความยาวเป็นวิธีวัดขนาดตาข่าย โดยนับจากศูนย์กลางลวดถึงศูนย์กลางลวด สำหรับตะแกรงที่มีช่องขนาดใหญ่มักกำหนดขนาดโดย ระยะห่างระหว่างลวดคู่ adjacent wires เช่น ตะแกรงขนาด 1 นิ้ว หรือ 2 นิ้ว

โครงสร้างสองมิติหรือสามมิติที่ทำจากลวดโลหะสองเส้นขึ้นไป และเชื่อมต่อกันด้วยวิธีต่างๆ เรียกว่าตะแกรงลวด (wire mesh) ผลิตภัณฑ์จากตะแกรงลวดมักถูกนำมาใช้ในการ ขนส่ง, แสดงสินค้า, กั้นรั้ว,และเสริมความแข็งแรง ในสภาพแวดล้อมต่างๆ ดังนั้นตะแกรงลวดจึงเป็นส่วนสำคัญทั้งในอุตสาหกรรมและชีวิตประจำวัน

วัสดุที่ใช้ผลิตตะแกรงลวดมีหลายชนิด เช่น สแตนเลส, เหล็กชุบสังกะสี, เหล็กกล้าคาร์บอนธรรมดา, อะลูมิเนียม, ทองแดง, บรอนซ์, ทองเหลือง และโลหะพิเศษอื่น ๆ โดยเส้นลวดที่มีความหนาต่างกันจะถูก สาน, พัน, หรือเชื่อมต่อกัน เพื่อสร้างแถวและคอลัมน์ที่ขนานกันและมีขนาดใกล้เคียง ก่อนตัดสินใจใช้งาน สิ่งสำคัญคือการเข้าใจประเภทตะแกรงลวดและลวดลายรวมถึงชนิดของลวดเพื่อให้เลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม

ขอบคุณข้อมูลจาก : iqsdirectory.com

Leave a Comment