ถุงไปรษณีย์ คืออุปกรณ์คลังสินค้าที่ช่วยในการแพ็คสินค้าในการส่งพัสดุ อีกหนึ่งอุปกรณ์ทางเลือกที่ช่วยพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ประหยัดค่าใช้จ่าย ต้นทุนมากกว่าการใช้แบบกล่อง สะดวกรวดเร็ว แข็งแรง กันน้ำ มีวัสดุให้เลือกหลายเกรด หลายราคา บางรุ่นมีแผ่นกันกระแทกในตัว ช่วยป้องกันความเสียหาย
ประเภทของ ถุงไปรษณีย์ ซองไปรษณีย์
ถุงไปรษณีย์ตามท้องตลาดมีให้เลือกหลายประเภท ผลิตจากวัสดุที่แตกต่างกัน หลากหลายราคา หลากหลายเกรดสินค้า โดยหลักๆแล้วจะมีดังนี้
- ซองไปรษณีย์ ซองจดหมายสีขาว ทำจากกระดาษแข็ง เหมาะกับการใส่เอกสาร ไม่ทำให้เอกสารยับ ใส่เอกสารสำคัญเช่น เอกสารราชการ สัญญา ใบรับรองต่างๆได้ ขนาดเท่า A4 กระดาษแข็งช่วยให้ปากกาลูกลื่นเขียนติด
- ซองกันกระแทก มีแผ่นบับเบิ้ลกันกระแทกด้านใน เหมาะกับการใส่ของชิ้นเล็ก หรือของที่แตกง่าย ช่วยลดต้นทุนในการแพ็คสินค้า
- ซองพลาสติก ช่วยกันน้ำ ลดต้นทุนการขนส่ง เหมาะกับใส่ของชิ้นเล็ก
- ซองใสหลังกาว ใส่เอกสาร สำหรับแปะใบปะหน้าติดซอง หรือกล่องพัสดุ เหมาะกับการแปะใบปะหน้า รายละเอียดที่อยู่ ใบกำกับภาษี
วิธีเลือกถุงไปรษณีย์
ขนาดถุงไปรษณีย์ ซองไปรษณีย์ ขนาดมาตรฐาน
ขนาดถุงไปรษณีย์ ถุงไปรษณีย์พลาสติก ถุงไปรษณีย์กระดาษในท้องตลาด แต่ละแบรนด์ แต่ละโรงงานจะมีขนาดไม่เท่ากัน หรืออาจคลาดเคลื่อนกันเล็กน้อย โดยทั่วไปแล้วขนาดมาตรฐานจะมีดังนี้
No. | กว้าง | ยาว | ปาก |
1 | 20cm | 25cm | 5cm |
2 | 25cm | 30cm | 5cm |
3 | 28cm | 37cm | 5cm |
4 | 32cm | 40cm | 5cm |
5 | 38cm | 47cm | 5cm |
6 | 40cm | 50cm | 5cm |
7 | 45cm | 55cm | 5cm |
วิธีเลือกขนาดถุงไปรษณีย์
ถุงไปรษณีย์ จะมีขนาดที่แตกต่างกันออกไป ความใหญ่ ความเหล็ก ความหนา ความบาง ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของถุงไปรษณีย์ แต่ละขนาดเหมาะกับการใส่สิ่งของไม่เหมือนกัน ผู้ใช้งานอาจเลือกได้ดังต่อไปนี้
- ขนาด 20 x 26 cm
สามารถใส่หนังสือขนาดครึ่ง A4 หรือ A5 ได้ ใส่เสื้อยืด หรือชุดว่ายน้ำแบบ one piece หรือ two piece ได้ - ขนาด 25 x 31 cm
ใส่หนังสือหรือกระดาษขนาด A4 50-100 แผ่นได้ หรือสามารถใส่เสื้อขนาดไซต์ใหญ่ได้ - ขนาด 28 x 37 cm
ใส่กล่องรองเท้า หรือเสื้อไซต์ใหญ่ 3-4 ตัวได้ - ขนาด 34 x 43 cm
ใส่กล่องรองเท้าขนาดใหญ่ หรือเสื้อไซต์ใหญ่ 3-4 ตัวได้ - ขนาด 39 x 50 cm
สามารถใส่สินค้าขนาดใหญ่ เสื้อกันหนาว เสื้อโค้ท กระเป๋าต่างๆได้ - ขนาด 50 x 65 cm
สามารถใส่กระเป๋าเป้ เสื้อผ้าขนาดใหญ่ เสื้อ Puffer Jacket เสื้อกันหนาว
วิธีเลือกซื้อถุงไปรษณีย์
ถุงไปรษณีย์มีหลายประเภท ผลิตจากวัสดุคุณภาพแตกต่าง หลักการเลือกซื้อถุงไปรษณีย์ให้ได้ถุงไปรษณีย์ที่มีคุณภาพมีหลายหลักการ โดยมีหลักๆ ที่ช่วยในการเลือกได้ถูกต้องและง่าย มีดังนี้
- เลือกจากความหนาของซอง ความหนามากที่สุดที่ขายกันในประเทศไทยจะอยู่ที่ 60-65 ไมครอน และควรเลือกถุงไปรษณีย์ ที่มีความทึบแสง ซึ่งจะมีพลาสติกหลายชั้น สามารถสอบถามได้จากร้านค้าที่ขายถุงไปรษณีย์นั้นๆ
- เลือกจากผิวสัมผัสของถุงไปรษณีย์ ปัจจุบันมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบด้าน แบบหยาบ แบบมัน และแบบผสม แบบผิวด้านจะเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะวัสดุที่ใช้ทำจะมีความเหนียว และทนทาน คงสภาพแม้ผ่านกระบวนการขนส่ง ส่วนแบบมันทำให้เกิดการเกี่ยวได้ง่าย ทำให้เกิดการฉีกขาด แบบหยาบจะมีการผสมเม็ดพลาสติก ทำให้ขาดง่ายและมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ส่วนแบบผสมมีราคาถูก มีขายตามท้องตลาดทั่วไป
- เลือกจากสีของ ถุงไปรษณีย์ ควรเป็นสีขาวสว่าง ไม่คล้ำ เพราะหากมีสีคล้ำนั่นหมายถึงการลดต้นทุนของโรงงาน เพราะสีขาวคือต้นทุนหลักในการผลิต
- เลือกจากบรรจุภัณฑ์ของ ถุงไปรษณีย์ ปัจจุบันจะมี 2 รูปแบบ คือแบบม้วนมัดเชือกขาย และแบบใส่ซองใส จะดีกว่าแบบม้วนเพราะหยิบใช้งานง่าย แบบม้วนจะทำให้กาวถุงไปรษณีย์ติดกันทุกใบ ไม่สะดวกต่อการใช้งาน
คุณสมบัติของ ถุงไปรษณีย์ ซองไปรษณีย์ พลาสติกที่ดี
ถุงไปรษณีย์ที่ดีจะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุและความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นกับสินค้าในขณะขนส่ง ช่วยปกป้องสินค้าไม่ให้ได้รับความเสียหาย ในขั้นตอนการเลือกซื้อควรพิจารณาให้รอบคอบ โดยควรมีคุณสมบัติดังนี้
- ความเหนียว
ถุงไปรษณีย์ ซองไปรษณีย์ ที่ทำจากพอลิเมอร์ จะมีความเหนียว ทนทาน ทำให้สามารถรองรับน้ำหนักของสินค้าได้มาก และลดการฉีกขาดของถุงไปรษณีย์ ป้องกันสินค้าชำรุดหรือร่วงหล่นหาย - ความเบา
นอกจากความเหนียวแล้วคุณสมบัติที่พ่วงมาของ ซองไปรษณีย์ ที่ทำจากพอลิเมอร์คือความเบา ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง และช่วยลดภาระการรับน้ำหนักของผู้นำส่ง - กันน้ำ
ช่วยป้องกันไม่ให้สินค้าข้างในเปียกเมื่อฝนตก หรือมีเหตุให้ซองไปรษณีย์โดนน้ำต่างๆ ลดการเกิดความเสียหายต่อสินค้า ช่วยเพิ่มความวางใจให้ผู้ส่ง และเป็นช่วยในการระมัดระวังสินค้าแก่ผู้นำส่ง - วัสดุรีไซเคิล
ถุงไปรษณีย์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล จะช่วยลดโลกร้อน และช่วยลดขยะ การใช้วัสดุฟุ่มเฟือย เพราะเป็นการนำวัสดุที่มีการใช้แล้วแปรรูปนำกลับมาใช้ใหม่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับถุงไปรษณีย์
ความแตกต่างของ ถุงไปรษณีย์ พลาสติกและ ถุงไปรษณีย์ กระดาษ
ถุงไปรษณีย์ในท้องตลาด โดยหลักๆแล้วจะผลิตจากวัสดุ 2 ประเภท คือกระดาษ และพลาสติก ซึ่งมีข้อต่างกันดังนี้
- ซองพลาสติก มีแถบกาวมาให้พร้อมแปะ ขนาดถุงยืดหยุ่นได้ มีความเหนียวมากกว่าแบบกระดาษ กาวมีความเหนียวกว่า แปะแล้วไม่สามารถลอกได้ ใส่สินค้าได้ทุกรูปแบบ สะดวก แพ็คง่าย รวดเร็ว
- ซองกระดาษ ใช้ของเหลวป้ายแถบกาว เมื่อต้องการปิดซอง แต่กาวจะไม่แห้งทันที สามารถลอกออกได้เมื่อกาวยังไม่แห้งสนิท ช่วยลดขยะเพราะไม่ต้องลอกแถบกาวเหมือนถุงพลาสติก
วิธีรีไซเคิลถุงไปรณีย์ เหลือใช้
ปัจจุบันหลายคนหันมาซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หรือลูกค้าทั่วไป ทำให้หลายบ้านต้องเผชิญกับปัญหาขยะจากกล่องไปรษณ๊ย์ ถุงไปรษณีย์ต่างๆ แต่หากทิ้งก็เสียดายเพราะกล่องหรือถุงไปรษณีย์เหล่านั้นยังคงอยู่ในสภาพดี ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปด้วยวิธีการรีไซเคิล นำกลับมาใช้ถุงไปรษณีย์ ที่ใช้งานแล้วสามารถนำมาประยุกต์ใช้อีกด้วยวิธีการต่างๆเหล่านี้
- ใช้ทำเป็นถุงขยะ เนื่องจากพลาสติกมีความหนา เหนียว ทนทาน ไม่รั่วง่าย
- ใช้ใส่เศษอาหาร
- ใช้ใส่เสื้อผ้า สำหรับจัดกระเป๋า จำแนกสิ่งของ หรือจัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบ
- ใช้ห่อเงินหรือโทรศัพท์มือถือ เมื่อฝนตกหรือทำกิจกรรมทางน้ำอื่นๆ เนื่องจากถุงไปรษณีย์มีคุณสมบัติกันน้ำ
- ใช้ปูรองพื้น เวลาทำงานช่าง ทาสี หรือตกแต่งบ้านต่างๆ
เคล็ดลับการแพ็คสินค้าใส่ถุงไปรษณีย์แบบแม่ค้าออนไลน์มืออาชีพ
การแพ็คสินค้าบรรจุลงถุงไปรษณีย์ที่ถูกต้อง ทำให้สินค้าถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัยตลอดการขนส่ง สามารถทำได้ตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ดังนี้
- เลือกขนาดถุงไปรษณีย์ ให้รับกับสินค้าที่ต้องการบรรจุ ความเบา ความหนัก ความหนาของสินค้า หากสินค้ามีจำนวนมากเกินไปควรเลือกใช้กล่องพัสดุ เพราะรับน้ำหนักได้มากกว่า แต่หากมีเพียงไม่กี่ชิ้นสามารถเลือกใช้ถุงไปรษรีย์ เพราะประหยัดต้นทุนมากกว่า
- ควรแพ็คสินค้าใส่ซองใสก่อนนำบรรจุถุงไปรษณีย์ เพื่อป้องกันถุงไปรษณีย์ขาดและทำให้สินค้าเสียหาย เปื้อน เลอะ และเพื่อความเป็นระเบียบของสินค้าต่างๆ
- นำสินค้าที่แพ็คด้วยซองใสแล้วแพ็คใส่ถุงไปรษณีย์ ให้เรียบร้อย ปิดถุงให้แน่น ควรเลือกถุงไปรษณีย์ที่มีกาวในตัวเพื่อความแน่นหนา และความสะดวกในการแพ็ค
- ติดด้วยเทปกาวเพื่อเพิ่มความแน่นหนา แม้ว่าถุงไปรษณีย์จะมีกาวในตัวเองก็ควรตรวจสอบความแน่นหนาทุกครั้ง อาจใช้เทปกาวแปะซ้ำเพื่อให้มั่นใจ
- ใส่รายละเอียดผู้ส่งและผู้รับให้เรียบร้อย ถูกต้อง มองเห็นชัดเจน และใส่เบอร์โทรศัพท์ทั้งผู้ส่งและผู้รับให้ถูกต้อง ควรตรวจสอบซ้ำทุกครั้ง เพื่อป้องกันการขนส่งผิดพลาด และลดภาระงานให้ผู้นำส่ง
- ติดตามสถานะการจัดส่ง นำหมายเลขติดตามพัสดุที่ได้จากบริษัทขนส่งแจ้งให้กับลูกค้าต่อไป
ข้อดีของถุงไปรษณีย์พลาสติก
ถุงไปรษณีย์พลาสติก อุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวกให้กับการส่งพัสดุ เพราะใช้งานง่าย แพ็คสิ่งของที่ต้องการส่งได้สะดวก และรวดเร็ว แข็งแรงแน่นหนา และราคาไม่แพง โดยประโยชน์ของถุงไปรษณีย์พลาสติกสามารถจำแนกเป็นข้อๆได้ดังนี้
- น้ำหนักเบา จุของได้เยอะ ช่วยประหยัดค่าขนส่งได้มากกว่าแบบกล่อง
- กันน้ำได้ ลดปัญหาเรื่องพัสดุโดนความชื้นหรือน้ำ ป้องกันของด้านในเปียก
- ไม่ฉีกขาดง่าย เนื่องจากตัววัสดุพลาสติกมีความเหนียวและยืดหยุ่น
- มีแถบกาวในตัวแน่นหนา ไม่สามารถแกะซ้ำได้เมื่อปิดถุงไปรษณีย์แล้ว ป้องกันสิ่งของถูกขโมยและสูญหาย
- ช่วยประหยัดต้นทุน เนื่องจากมีราคาถูกมากกว่ากล่องไปรษณีย์หรือซองกระดาษ
- ช่วยประหยัดพื้นที่จัดเก็บในคลังสินค้า และสะดวกต่อผู้นำส่ง
- ถุงไปรษณีย์บางรุ่นมีการพิมพ์จ่าหน้าซองมาให้ สะดวกและประหยัดเวลา
- แพ็คง่าย ใช้เวลาน้อยกว่าการใช้กล่องไปรษณีย์
วิธีลดต้นทุนค่าขนส่งสำหรับธุรกิจออนไลน์
ปัจจุบันธุรกิจออนไลน์มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด หลายร้านมีการแข่งขันกันในเรื่องของราคา ส่วนลด ค่าขนส่ง ล้วนแล้วแต่เป็นต้นทุนในการขายสินค้า โดยวิธีที่จะทำให้ร้านค้าสามารถลดต้นทุนได้ มีดังนี้
- ศึกษาราคาค่าจัดส่งของแต่ละบริษัทขนส่ง และแต่ละขนาดพัสดุ เพื่อเปรียบเทียบราคา และส่งพัสดุแต่ละขนาดไปยังขนส่งที่เหมาะสม และมีค่าขนส่งถูกสำหรับพัสดุขนาดนั้น
- ใช้ถุงไปรษณีย์แทนการใช้กล่องพัสดุ สำหรับสินค้าชิ้นเล็กและสินค้าที่มีจำนวนไม่มาก ช่วยลดน้ำหนักสินค้า ประหยัดค่าขนส่ง และต้นทุนในการแพ็คสินค้าไม่แพง
- ขอราคาขนส่งจากบริษัทโดยตรง ในบางครั้งหากติดต่อขอราคาจากบริษัทขนส่งโดยตรง และใช้เป็นขนส่งประจำ ทางบริษัทอาจสามารถเสนอราคาที่ดีกว่าให้ได้
- ใช้ขนส่ง Delivery บางครั้งการใช้ขนส่งแบบ Delivery ในการส่งสินค้าขนาดใหญ่จำนวนมากๆ ในระยะทางที่ไม่ไกล อาจมีค่าขนส่งถูกกว่าการใช้ขนส่งปกติ ทั้งนี้ควรศึกษาและเปรียบเทียบราคาให้ดีก่อนการเลือกวิธีการขนส่งสินค้า
ถุงไปรษณีย์ VS กล่องไปรษณีย์
ปัจจุบันพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต่างหันมาเลือกใช้ถุงไปรษณีย์ในการแพ็คสินค้าแทนกล่องไปรษณีย์มากขึ้น อีกทั้งปัจจุบันถุงไปรษณีย์ยังมีการผลิตออกมาให้เลือกซื้อกันหลายรุ่น หลายขนาด นอกจากนั้นยังมีการผลิตลวดลายเพื่อให้น่าดึงดูดใจในการใช้งานมากขึ้น เหตุผลที่ทำให้ถุงไปรษณีย์ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน แทนการใช้กล่องไปรษณีย์แพ็คสินค้าแบบสมัยก่อน อาจมีดังนี้
คุณสมบัติ | ถุงไปรษณีย์ | กล่องไปรษณีย์ |
หาซื้อง่าย | ||
มีหลายขนาด | ||
ราคาต้นทุนถูก | ||
ราคาค่าขนส่งถูก | ||
บรรจุง่าย | ||
กันน้ำ | ||
แข็งแรง ทนทาน | ||
ประหยัดพื้นที่ | ||
น้ำหนักเบา |
ประเภทถุงไปรษณีย์กันกระแทก
ในการขนส่งพัสดุ บางครั้งทางบริษัทขนส่งอาจมีการโยนสินค้าเพื่อความรวดเร็วในการลำเลียงพัสดุ อาจเป็นปัญหาสำหรับู้จัดส่งหรือผู้รับ เพราะบางครั้งหากแพ็คสินค้าไม่ดี อาจทำให้สินค้าเกิดความเสียหาย ถุงไปรษณีย์กันกระแทกจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้การแพ็คสะดวกและสินค้ามีความปลอดภัยมากขึ้น เพราะไม่ต้องใส่บับเบิ้ลกันกระแทกแยกกับถุงไปรษณีย์หรือกล่องไปรษณีย์ ถุงไปรษณีย์กันกระแทกมีหลายแบบดังนี้
- ซองแอร์บับเบิ้ล ทำจากบับเบิ้ลกันกระแทกล้วน ใช่ใส่ไว้ในกล่องหรือซองอีก 1 ชั้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับสินค้า
- ซองกันกระแทกพลาสติก มีเทปกาวในตัว สะดวก ในซองมีบับเบิ้ลกันกระแทก มีบับเบิ้ลให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ใหญ่ไปจนเล็ก ตัวซองมีทั้งแบบด้านและแบบเงา
- ซองกันกระแทกกระดาษ ทำจากกระดาษมีทั้งสีน้ำตาล และสีขาว มีเทปกาวและบับเบิ้ลกันกระแทกในตัว แต่จะไม่มีความกันน้ำเหมือนซองพลาสติก
- ซองกันกระแทกกระดาษเคลือบ ทำจากกระดาษเคลือบมิลาเนตพลาสติกเพื่อป้องกันความชื้น ทำให้กันน้ำได้ไม่เหมือนซองกันกระแทกกระดาษธรรมดา มีเทปกาวในตัว มีบับเบิ้ลในตัว
ขนาดถุงไปรษณีย์
สำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ผู้ต้องการเลือกซื้อถุงไปรษณีย์ ขนาดถุงไปรษณีย์มาตรฐานในท้องตลาด และความเหมาะสมในการบรรจุผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐาน สามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมดังนี้
Best uses for these sizes: | |
Size : A | Jewelery |
Size : B | Phone Case |
Size : C | CD’s |
Size : D | DVD or Blue Ray Disks |
Size : E | Small Book |
Size : F | Desk Dairies |
Size : G | A4 Brochures |
Size : H | Stationary |
Size : J | Small Clothing |
Size : K | A3 Folder |