ชั้นวางของถือเป็นหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์จัดเก็บที่มีชื่อเสียงด้านความแข็งแรงและทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักได้มากและใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่การจัดเก็บของใช้ในบ้านไปจนถึงการใช้ในสำนักงานหรือคลังสินค้า อย่างไรก็ตาม แม้ชั้นวางของจะมีความทนทานกว่าวัสดุอื่นๆ เช่น ไม้หรือพลาสติก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ต้องดูแลเลย
การดูแลรักษาที่ถูกต้องจึงมีความสำคัญ เพราะช่วยให้ชั้นวางของยังคงความแข็งแรงใช้งานได้อย่างมั่นใจและคงควาสวยงามเหมือนใหม่การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ เช่น การเช็ดทำความสะอาดเป็นประจำ การจัดวางของให้สมดุลหรือการป้องกันความชื้นล้วนมีผลโดยตรงต่อการใช้งานของชั้นวางของ หากละเลยไปอาจจะทำให้เกิดปัญหา เช่น การขึ้นสนิม โครงเหล็กบิดงอ หรือแม้กระทั่งความไม่ปลอดภัยในการใช้งาน
ดังนั้น หากคุณต้องการให้ชั้นวางของเหล็กมีคุณภาพดีไปอีกหลายปีการเรียนรู้วิธีดูแลรักษาที่ถูกต้องถือเป็นสิ่งจำเป็นไม่เพียงแต่จะช่วยยืดอายุการใช้งาน แต่ยังทำให้บ้านหรือพื้นที่จัดเก็บของคุณดูเป็นระเบียบและสวยงามอยู่เสมอ
1.ทำความสะอาดสม่ำเสมอ
การดูแลชั้นวางของเหล็กไม่ต่างจากการดูแลเฟอร์นิเจอร์ทั่วไปจุดที่ต้องใส่ใจมากที่สุด คือ ฝุ่นและคราบสกปรก เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นานๆคราบเหล่านี้อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการกัดกร่อน โดยเฉพาะคราบน้ำหรือคราบน้ำมัน
- ควรใช้ผ้านุ่มหรือไมโครไฟเบอร์ ชุบน้ำสะอาดบิดหมาดๆเช็ดพื้นผิวทุกสัปดาห์
- หากมีคราบเหนียว เช่น คราบอาหาร น้ำมันหรือคราบกาว ให้ใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำเจือจาง เช็ดตามด้วยน้ำสะอาดแล้วเช็ดแห้งทันที
- หลีกเลี่ยงการใช้ผงขัดหรือน้ำยาที่มีฤทธิ์กรด-ด่างแรงๆ เพราะจะทำให้สีเคลือบหลุดและเสี่ยงต่อการเกิดสนิมเร็วขึ้น
2.ป้องกันการเกิดสนิม
แม้ว่าชั้นวางของเหล็กจะผ่านการเคลือบสีฝุ่นหรือชุบสังกะสี เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานและป้องกันสนิม แต่ความจริงคือ หากมีรอยขีดขวดหรือเกิดการกระแทกจนถึงเนื้อเหล็กด้านใน ชั้นเหล็กก็ยังมีความความเสี่ยงที่จะเกิดสนิมได้ โดยเฉพาะหากตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เพื่อป้องกันไม่ให้สนิมลุกลามจนทำลายโครงสร้าง ควรหมั่นตรวจสภาพของชั้นวางของเป็นประจำ หากพบรอยขีดข่วนหรือสนิมเล็กๆควรใช้กระดาษทรายละเอียดขัดออกทันที จากนั้นทาด้วยสีเคลือบกันสนิมหือสเปรย์สีพ่นเพื่อปิดผิวที่เสียหาย วิธีนี้จะช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของสนิมและคงความแข็งแรงของชั้นวางของ
- หากพบรอยเล็กๆให้รีบใช้กระดาษทรายละเอียดขัดสนิมออกแล้วทาสีเคลือบกันสนิมหรือเสปรย์สีทันที
- หลีกเลี่ยงการวางชั้นเหล็กในจุดที่มีความชื้นสูงหรือน้ำเด็นบ่อย เช่น ใกล้ก๊อกน้ำ ห้องน้ำหรือริมระเบียงที่โดนฝน
- หากจำเป็นต้องใช้ในพื้นที่เสี่ยง เช่น ห้องครัว ควรเลือกชั้นวางของชุบโครเมียมหรือแสตนเลสแทน
3.ใช้งานตามน้ำหนักที่กำหนด
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หลายคนมักมองข้ามเมื่อนำชั้นวางของมาใช้งานก็คือ น้ำหนักบรรทุกสูงสุด โดยผู้ผลิตทุกเจ้าจะระบุน้ำหนักที่แต่ละแผ่นชั้นสามารถรองรับได้อย่างชัดเจน เช่น 50 กิโลกรัมต่อแผ่นสำหรับรุ่นทั่วไป, 100 กิโลกรัมสำหรับรุ่นกลาง หรืออาจสูงถึง 200 กิโลกรัมขึ้นไปสำหรับชั้นวางแบบอุตสาหกรรมที่ออกแบบมาเพื่อเก็บสินค้าหนักโดยเฉพาะ
- ไม่ควรวางของเกินน้ำหนักที่กำหนดเพราะแม้ชั้นจะไม่หักทันทีแต่เหล็กอาจค่อยๆแอ่นจนเสียรูปทรงและอาจทำให้ชั้นล้มได้
- ควรกระจายน้ำหนักให้สมดุล เช่น หากต้องวางกล่องหนังสือหรือของหนัก ควรกระจายไปทั้งแผ่น ไม่กองไว้เพียงมุมเดียว
- ของที่หนักมากควรจัดไว้ที่ชั้นล่างเพื่อเพิ่มความมั่นคงและป้องกันการล้มคว่ำเวลาหยิบใช้
4.จัดวางและติดตั้งอย่างถูกวิธี
ชั้นวางเหล็กจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและปลอดภัยก็ต่อเมื่อมีการติดตั้งและจัดวางอย่างถูกต้องหลายครั้งปัญหาที่เกิดขึ้นเช่น ชั้นเอนไปด้านหนึ่ง เสี่ยงล้มหรือโครงสร้างไม่มั่นคง มักเกิดจากการประกอบที่ไม่สมบูรณ์หรือการวางในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นการใส่ใจรายละเอียดตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้งจึงมีความสำคัญมาก
- เวลาประกอบ ควรขันน็อตหรือระบบล็อกให้แน่นทุกจุด หากใช้บ่อยๆควรตรวจสอบทุก 3–6 เดือนว่าน็อตหลวมไหม
- หากใช้ในพื้นที่ที่มีการเดินผ่านบ่อย หรือมีเด็กเล็ก ควรยึดชั้นเหล็กเข้ากับผนังเพื่อป้องกันการพลิกคว่ำ
- เลือกพื้นเรียบและแข็งแรงสำหรับการวาง หากพื้นไม่เสมอกันอาจใช้ยางรองขาปรับสมดุลเพื่อไม่ให้ชั้นโยก
5.ทำความสะอาดและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
การทำความสะอาดและบำรุงรักษาชั้นวางเหล็กเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยรักษาความแข็งแรงและความสวยงามให้ใช้งานได้นาน การละเลยการดูแลในส่วนนี้อาจทำให้เกิดสนิม คราบฝุ่นสะสมหรือทำให้สีเคลือบลอกได้เร็ว
ขั้นตอนการทำความสะอาด
- ใช้ผ้านุ่มหรือไมโครไฟเบอร์ ชุบน้ำหมาดๆเช็ดฝุ่นและคราบสกปรกออกสัปดาห์ละครั้ง การเช็ดอย่างสม่ำเสมอช่วยป้องกันฝุ่นและความชื้นสะสม ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสนิม
- สำหรับคราบเหนียว เช่น คราบน้ำมันหรือเศษอาหาร สามารถใช้น้ำยาล้างจานเจือจางเช็ดเบาๆแล้วตามด้วยการเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำสะอาดจากนั้นเช็ดให้แห้งทันที
- หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรงหรือผงขัดเพราะอาจทำลายผิวเคลือบของเหล็กทำให้เกิดจุดอ่อนสำหรับการขึ้นสนิม
การบำรุงรักษา
- ตรวจสอบชั้นวางเป็นระยะ ว่ามีรอยขีดข่วนหรือรอยสนิมเล็กๆหรือไม่หากพบให้รีบขัดออกด้วยกระดาษทรายละเอียดและทาสีเคลือบป้องกันสนิมทันที
- สำหรับชั้นที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำหรือระเบียง ควรเช็ดให้แห้งทุกครั้งหลังโดนน้ำเพื่อป้องกันสนิมและการกัดกร่อน
- ตรวจสอบน็อตและข้อต่อเป็นระยะหากหลวมให้ขันให้แน่นเพื่อรักษาความมั่นคงของโครงสร้าง