เทคนิคดูแลของใช้ในบ้านให้อยู่ทน อยู่ได้นาน

การลงทุนกับของใช้ในบ้านไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์หรือแม้แต่ของใช้จุกจิกชิ้นเล็กๆล้วนแต่เป็นการสร้างความสะดวกสบายและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับเรา แต่จะดีแค่ไหนหากของเหล่านั้นสามารถอยู่กับเราไปได้นานแสนนาน โดยไม่ต้องเสียเงินซ่อมบำรุงหรือซื้อเปลี่ยนบ่อย เคล็ดลับไม่ได้อยู่ที่การซื้อของแพงเสมอไป แต่อยู่ที่การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีเทคนิคการดูแลของใช้ในบ้านแบบครบวงจร เพื่อให้ทุกสิ่งในบ้านแบบครบวงจร เพื่อให้ทุกสิ่งในบ้านของคุณอยู่ในสภาพดีเยี่ยม พร้อมใช้งานเสมอและช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

1.ทำความเข้าใจและปฏิบัติตามคู่มือการใช้งานกุญแจสำคัญที่หลายคนมองข้าม
สิ่งแรกที่คุณควรทำทันทีหลังจากซื้อของใช้ใหม่ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็นเครื่องซักผ้าหรือแม้แต่เครื่องปิ้งขนมปังคือการอ่านคู่มือการใช้งานอย่างละเอียดคู่มือเหล่านี้ไม่ได้มีไว้แค่อ่านครั้งเดียวแล้วโยนทิ้งไปแต่เป็นคัมภีร์ที่บรรจุข้อมูลสำคัญที่สุดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้นๆไม่ว่าจะเป็น
1.1)วิธีการติดตั้งและการใช้งานที่ถูกต้อง:การติดตั้งที่ไม่เหมาะสมอาจนำไปสู่ความเสียหายตั้งแต่แรกเริ่มหรือการใช้งานที่ผิดวิธีอาจทำให้เครื่องทำงานผิดปกติหรือเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร
1.2)คำแนะนำในการบำรุงรักษา:ผู้ผลิตจะบอกวิธีการทำความสะอาดที่ถูกต้องชนิดของน้ำยาที่ควรใช้หรือความถี่ในการตรวจสอบชิ้นส่วนต่างๆ
1.3)วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น:ก่อนที่จะเรียกช่างคู่มือมักจะมีตารางแนะนำการตรวจสอบปัญหาเล็กๆน้อยๆที่อาจเกิดขึ้นได้

2.ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ:ขจัดสิ่งสกปรกก่อนที่จะฝังแน่น
ฝุ่นละอองคราบสกปรก และเศษอาหารที่สะสมอยู่ตามของใช้ต่างๆไม่เพียงแต่ทำให้ดูไม่น่ามองแต่ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ของใช้เสื่อมสภาพเร็วขึ้นและอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคอีกด้วย การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธีจึงเป็นหัวใจหลักในการดูแลรักษา
2.1)เครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นผิวภายนอก:ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำหมาดๆเช็ดทำความสะอาดเป็นประจำ อาจใช้น้ำยาทำความสะอาดสำหรับพื้นผิวเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะหากมีคราบฝังแน่นหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูงเช่นแอลกอฮอล์หรือทินเนอร์หรือน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำเพราะอาจทำลายพื้นผิวหรือสีของเครื่องได้
2.2)เครื่องปิ้งขนมปัง/เตาอบ:ทำความสะอาดเศษขนมปังหรือคราบอาหารที่ตกค้างทันทีหลังใช้งานเพื่อป้องกันการสะสมและกลิ่นเหม็นไหม้
2.3)เฟอร์นิเจอร์:ปัดฝุ่นด้วยผ้าแห้งหรือผ้าไมโครไฟเบอร์เป็นประจำหากมีรอยเปื้อนให้ใช้ผ้าชุบน้ำสบู่อ่อนๆเช็ดเบาๆแล้วเช็ดให้แห้งสนิททันทีเพื่อป้องกันความชื้นซึมเข้าเนื้อไม้ควรทาน้ำยาเคลือบเงาหรือขี้ผึ้งสำหรับไม้เป็นครั้งคราว(ตามชนิดของไม้)เพื่อรักษาความเงางามและป้องกันรอยขีดข่วน

3.การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน:ตัดไฟแต่ต้นลม
การรอให้ของใช้ชำรุดก่อนแล้วค่อยซ่อมมักจะนำไปสู่ค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าและอาจทำให้ของนั้นเสียหายจนเกินเยียวยาได้การบำรุงรักษาเชิงป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพของของใช้ในบ้าน
3.1)เครื่องปรับอากาศ:การล้างแผ่นกรองอากาศอย่างน้อยเดือนละครั้งและการเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาล้างใหญ่ทุกๆ 6-12 เดือนจะช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพประหยัดพลังงานและลดการสะสมของฝุ่นละอองและเชื้อโรคในอากาศ
3.2)ตู้เย็น:นอกจากเช็ดภายนอกแล้วควรทำความสะอาดขอบยางประตูตู้เย็นเป็นประจำเพื่อให้ยางปิดสนิทไม่แข็งกระด้างและไม่กินไฟควรตรวจสอบท่อน้ำทิ้งด้านหลังตู้เย็นไม่ให้อุดตันและเว้นระยะห่างด้านหลังตู้เย็นจากผนังตามที่คู่มือกำหนดเพื่อการระบายความร้อนที่ดี
3.3)เครื่องซักผ้า:นอกจากจะทำความสะอาดช่องใส่ผงซักฟอกและช่องน้ำยาปรับผ้านุ่มแล้วควรรันโหมดทำความสะอาดถังซัก(ถ้ามี)อย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อกำจัดคราบผงซักฟอกและเชื้อราที่อาจสะสมอยู่ภายในถังซัก

4.ใช้งานให้ถูกประเภทและระมัดระวัง:ยืดอายุการใช้งานจากพฤติกรรมเราเอง
พฤติกรรมการใช้งานของเรามีผลโดยตรงต่ออายุการใช้งานของของใช้ในบ้านการใช้งานที่ผิดวิธีหรือไม่ระมัดระวังอาจทำให้ของชำรุดเร็วกว่าที่คิด
4.1)อย่าใช้เกินกำลัง:ตัวอย่างที่พบบ่อยคือการใส่ผ้าในเครื่องซักผ้าเกินความจุที่กำหนดทำให้เครื่องทำงานหนักเกินไปและมอเตอร์เสื่อมสภาพเร็วหรือการเสียบปลั๊กพ่วงเกินกำลังไฟที่รองรับอาจทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าเกินและอุปกรณ์เสียหายได้
4.2)ระมัดระวังการเคลื่อนย้าย:หากจำเป็นต้องย้ายเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ควรยกหรือใช้รถเข็นลากไม่ควรลากไปกับพื้นโดยตรงเพราะอาจทำให้พื้นเป็นรอยหรือโครงสร้างเฟอร์นิเจอร์เสียหายได้

5.จัดเก็บให้เป็นระเบียบและเหมาะสม:ป้องกันความเสียหายก่อนใช้งาน
การจัดเก็บที่ดีช่วยถนอมของใช้ได้มากโดยเฉพาะของที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆหรือของที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
5.1)มีพื้นที่สำหรับทุกสิ่ง:เมื่อของทุกชิ้นมีที่อยู่เป็นของตัวเองไม่ได้ถูกกองรวมกันจะช่วยลดโอกาสที่ของจะเสียหายจากการถูกทับหรือตกหล่น
5.2)ใช้กล่องหรือถุงเก็บของ:สำหรับของที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยเช่นผ้าห่มหรือหมอนอิงตามฤดูกาลหรืออุปกรณ์กีฬาหรือเครื่องมือช่างการเก็บในกล่องหรือถุงผ้าที่มีซิปจะช่วยป้องกันฝุ่นแมลงและความชื้นได้

การดูแลของใช้ในบ้านอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นยิ่งใหญ่ทั้งในแง่ของความประหยัดความสะอาดและความสุขในการอยู่อาศัยเมื่อของทุกชิ้นได้รับการดูแลอย่างดีบ้านของคุณก็จะน่าอยู่และพร้อมใช้งานอยู่เสมอ

Leave a Comment