ชั้นวางเหล็กมีประโยชน์หลักๆ คือเรื่องของความแข็งแรงทนทานและความยืดหยุ่นในการใช้งาน จึงเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางทั้งในโรงงานอุตสาหกรรม โกดังเก็บสินค้า ไปจนถึงบ้านพักอาศัยและสำนักงาน
การเลือกจำนวนชั้นวางเหล็กก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะชั้นวางเหล็กจำนวนของชั้นจะมีการใช้งานต่างกันไป สามารถเลือกได้ ตั้งแต่ 2 ชั้น, 3 ชั้น, 4 ชั้น, 5 ชั้น หรือ 6 ชั้น โดยคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก ต้องเลือกชั้นวางที่เหมาะแก่ ขนาดและลักษณะของที่วางเพราะแต่ละประเภทจะแตกต่างกัน
ชั้นวางของเหล็ก แบบ 1 ชั้น เหมาะสำหรับสินค้าที่มีขนาดเดียวกัน ประเภทเดียวกัน สามารถวางซ้อนทับเรียงกันได้และยังสะดวกต่อการวางจับแยกประเภทสินค้าตามหมวดหมู่สินค้า
ชั้นวางของเหล็ก แบบ 2 ชั้น เหมาะสำหรับ ของชิ้นใหญ่ๆ มีความสูงที่ไม่เท่ากันเช่น เหล็กเส้นยาวๆ ท่อน้ำประปา อะลูมิเนีย
ชั้นวางของเหล็ก แบบ 3 ชั้น เหมาะสำหรับ ถังสี หรือ ชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆที่มีน้ำหนักและขนาดไม่เท่ากัน
ชั้นวางของเหล็ก แบบ 4 ชั้น เหมาะสำหรับ สินค้าที่เป็นกล่องหรือลัง เป็นชั้นวางสินค้าซุปเปอร์มาร์เก็ต ชั้นวางสินค้ามินิมาร์ท ใช้ได้ทั้งในบ้านเรือนและคลังสินค้า จะเป็นที่นิยมใช้ส่วนใหญ่
ชั้นวางของเหล็ก แบบ 5 ชั้น เหมาะสำหรับ จัดเก็บสินค้า จำพวกหนังสือ เอกสาร แฟ้มต่างๆ อะไหล่ หรือ กระบะพลาสติก หลายๆอย่าง
ชั้นวางของเหล็ก แบบ 6 ชั้น เหมาะสำหรับ ใช้จัดเก็บหนังสือตามหมวดหมู่ ทั้งในบ้านเรือน สำนักงาน ห้องสมุดโรงเรียน หรือสถานศึกษา รวมไปถึงร้านจำหน่ายหนังสือ