ชั้นวางเหล็กโครงสร้างหนาพิเศษ พ่นสีกันสนิมมาตรฐานอุตสาหกรรม รับน้ำหนักได้จริงแบบไม่ต้องลุ้น จัดระเบียบง่าย ปรับระดับชั้นได้ตามใจชอบ ราคาถูกกว่า เพราะเราผลิตเอง ไม่ผ่านเซลล์ ไม่บวกเพิ่ม แนะนำชั้นวางเหล็กคุณภาพ ควรประกอบการพิจารณาด้วย 5 เรื่องความรู้ดังนี้
1. เรื่องความหนาของเหล็กและการรับน้ำหนัก
- คุณภาพเริ่มจากเนื้อเหล็กโดยชั้นวางเหล็กมักจะเลือกใช้วัสดุเหล็กรีดเย็นนำมาผลิตชั้นวางเหล็ก เพราะคุณสมบัติเด่นผิวเหล็กจะมีความมันวาวความหนาจะสม่ำเสมอตลอดทั้งแผ่นมีความแข็งแรงสูงขอบเหล็กจะมีความคมชัดและไม่ค่อยบิดงอหรือหดตัวเมื่อใช้งาน
- ความหนาของเสา ส่งผลต่อน้ำหนักรวมทั้งหมดที่ชั้นวางทั้งชุดจะรับได้ หากเสาบางเกินไป ชั้นวางอาจจะโย้หรือยุบตัวจากด้านบนลงล่าง
- ความหนาของคาน ส่งผลต่อน้ำหนักต่อชั้นคานที่หนาและมีหน้าตัดกว้างจะช่วยป้องกันการแอ่นตัวตรงกลาง
- ความหนาของแผ่นชั้น ช่วยรองรับการกดทับเฉพาะจุด หากแผ่นชั้นบางแต่คานแข็งแรง แผ่นเหล็กอาจบุบได้แม้คานยังรับไหว
ข้อควรระวังการรับน้ำหนัก
ห้ามดัดแปลงโครงสร้างไม่ควรเจาะรูเพิ่ม ตัดเสา หรือต่อเติมโครงสร้างเองโดยไม่มีวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญรับรอง เพราะจะทำให้ค่าการรับน้ำหนัก พื้นที่วางชั้นวางเหล็กต้อง เรียบและได้ระดับ หากพื้นเอียงจะทำให้เสารับน้ำหนักไม่เท่ากัน เสี่ยงต่อการบิดตัวและพังทลายด้วย
2.เรื่องการเคลือบผิวและกันสนิม
- เป็นกระบวนการผลิตการสร้างชั้นเลเยอร์ปกป้องเพื่อไม่ให้เนื้อเหล็กสัมผัสกับ “น้ำ” และ “ออกซิเจน” โดยตรงจะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่เรียกว่า การเกิดสนิม ซึ่งจะกัดกินเนื้อเหล็กจนเปื่อยยุ่ยและขาดความแข็งแรง ทำให้กระบวนการผลิตมีการคลืบการป้องกันการเกิดสนิมจากเหล็กจะช่วยรักษาระยะการใช้งานได้ยาวขึ้นไปอีก
- ระบบการพ่นสีแบบ Powder Coating (สีฝุ่น) เมื่อเทียบกับสีน้ำทั่วไป คุณสมบัติความทนทาน ทนต่อแรงกระแทก รอยขีดข่วน และการบิดงอได้สูงมาก
- ระบบการพ่นสีแบบสีฝุ่น ข้อดีผิวสีจะเรียบเนียน ไม่หลุดร่อนง่าย และ ทนทานต่อการขีดข่วนและการเกิดสนิม แม้จะใช้งานในพื้นที่กึ่งเปิด ข้อเสียหากเกิดรอยลึกถึงเนื้อเหล็ก ความชื้นอาจซึมเข้าไปใต้ชั้นสีและเกิดสนิมลามได้
3. เรื่องการประกอบ
- ชั้นวางที่ดีต้องประกอบง่ายแต่โครงสร้างต้องแข็งแรง ไม่โยกเยก โดยชั้นวางรุ่นนี้เป็นระบบ Boltless หรือ แบบไม่ใช้น็อต ใช้การตอกสลักรูปเขี้ยวเข้ากับรูเสาและคานรับชั้น ต้องมีเขี้ยวล็อกอย่างน้อย 2-3 จุดต่อหนึ่งฝั่ง เพื่อกระจายแรง ที่สำคัญในส่วนของรอยเชื่อมต้องเนียน หรือถ้าเป็นแบบ Boltless ไม่ใช้น็อต ตัวล็อกต้องเข้ารูปเป๊ะ
- ชั้นวางเหล็กโครงสร้างต้องมั่นคง ไม่โครงเครง และ ประกอบง่ายแบบ DIY ใครก็ทำได้ แต่ยังคงความแข็งแรงระดับอุตสาหกรรม
ขั้นตอนการประกอบ (Step-by-Step)
- ติดตั้งฐานและโครงสร้างส่วนล่าง เริ่มจากนำเสา 2 ต้นมาตั้ง แล้วยึดคานสั้นที่ระดับล่างสุดก่อน เพื่อทำเป็นโครงด้านข้าง ทำแบบเดียวกันทั้งสองฝั่ง
- เชื่อมต่อคานยาวนำโครงข้างทั้งสองมาเชื่อมต่อกันด้วยคานยาว โดยเริ่มจากชั้นล่างสุดเพื่อให้โครงสร้างสามารถตั้งอยู่ได้ด้วยตัวเอง
- กำหนดระยะห่างของแต่ละชั้นวัดระยะความสูงที่ต้องการ แล้วนำคานที่เหลือมาติดตั้งตามรูล็อกของเสา
- การวางแผ่นชั้นเมื่อโครงสร้างเหล็กแข็งแรงแล้ว ให้นำแผ่นชั้นวางลงบนคาน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแผ่นชั้นลงล็อกพอดี ไม่กระดก
ข้อควรระวังด้านความปลอดภัย
- ควรสวมถุงมือ ขอบเหล็กบางรุ่นอาจมีความคม
- เช็คความมั่นคง ลองเขย่าโครงสร้างดูว่าโยกเยกหรือไม่ หากใช้ในพื้นที่สูงควรยึดน็อตเข้ากับผนัง
- การกระจายน้ำหนัก ควรวางของหนักไว้ที่ ชั้นล่างสุด เสมอ เพื่อป้องกันการล้มคว่ำ
4. เรื่องความยืดหยุ่นในการใช้งาน
- ชั้นวางชุดเดียวสามารถ ปรับให้เข้ากับพื้นที่ได้ง่าย และชั้นวางที่มีความยืดหยุ่นสูงจะช่วยประหยัดต้นทุนในระยะยาว เพราะไม่ต้องซื้อใหม่เมื่อย้ายที่หรือเปลี่ยนประเภทของที่จัดเก็บ การใช้งานได้หลากหลายพื้นที่ เช่น ในคลังสินค้า/โรงรถ เน้นการรับน้ำหนักและทนต่อรอยขีดข่วน
- การใช้ในสำนักงาน/บ้าน ด้วยการผลิตพ่นสี Powder Coating นอกจากสวยแล้ว ยังดูดีพอที่จะวางในห้องนั่งเล่นหรือห้องทำงานได้ และในแต่ละชั้นคานแต่ละชั้นควรปรับระดับได้ โดยไม่กระทบความแข็งแรงของชั้นอื่นและคุณภาพในยุคนี้คือต้องตอบโจทย์พื้นที่ของลูกค้า
- ส่วนสำคัญสามารถปรับระดับชั้นสูง-ต่ำได้ตามขนาดของที่วาง หรือ ต่อขยายเพิ่มได้ในอนาคต
ข้อควรระวังในการใช้งาน
การกระจายน้ำหนัก ควรวางของหนักไว้ที่ชั้นล่างสุดเสมอ และกระจายของให้ทั่วแผ่นชั้น ไม่ควรกองไว้จุดใดจุดหนึ่ง และ การยึดติดหากชั้นวางสูงมาก ควรยึดโครงเหล็กเข้ากับผนังเพื่อป้องกันการล้มคว่ำ ตรวจเช็คจุดเชื่อมต่อหรือน็อตทุกๆ 6 เดือน เพื่อความปลอดภัย
5. เรื่องมาตรฐานและความปลอดภัย
1.มาตรฐานการผลิตและการรับน้ำหนัก
- มาตรฐานวัสดุ ควรผลิตจากเหล็กโครงสร้างรูปพรรณที่มีการพ่นสีกันสนิม
- ป้ายระบุพิกัดน้ำหนัก ต้องมีการติดป้ายชัดเจนว่าแต่ละชั้นรับน้ำหนักได้สูงสุดเท่าใดและน้ำหนักรวมทั้งตู้ไม่ควรเกินเท่าไหร่
- ค่าความปลอดภัย โดยปกติชั้นวางมาตรฐานอุตสาหกรรมจะออกแบบให้รับน้ำหนักได้มากกว่าที่ระบุไว้ประมาณ 1.5 – 2 เท่า เพื่อรองรับแรงกระแทกขณะวางของ
2.มาตรฐานการติดตั้งเพื่อความปลอดภัย
- ความสมดุลของพื้น พื้นที่ติดตั้งต้องเรียบเสมอกัน หากพื้นเอียงต้องใช้แผ่นชิมหนุนฐานเสาให้ตรง
- การยึดสมอ สำหรับชั้นวางที่สูงเกิน 2.5 เมตร หรือชั้นวางหนัก ต้องมีการยึดขาเสากับพื้นด้วย Bolt เพื่อป้องกันการล้มคว่ำ
- ระยะห่าง ควรมีระยะห่างระหว่างชั้นวางกับผนัง หรือระหว่างแถวที่เหมาะสมเพื่อให้รถเข็นหรือคนเดินผ่านได้สะดวก
3.กฎความปลอดภัยในการใช้งาน
- ชั้นวางคุณภาพต้องมีการระบุแจ้งการรับน้ำหนักแบบกระจายตัวสม่ำเสมอและน้ำหนักที่ไม่ควรเกินกำหนด เช่น ถ้าระบุว่ารับได้ 100กก. โครงสร้างต้องไม่พังทลายแม้ถูกทดสอบวางที่ 100กก.
- ชั้นวางแบบเชื่อมตายตัว มาตรฐานนี้จะรับประกันว่ารอยเชื่อมแข็งแรงพอที่จะไม่หลุดจากกันเมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือน
- ชนิดเหล็กแผ่นรีดเย็นมีความคมสูงมาก ชั้นวางที่ดีต้องมีการพับขอบ หรือลบคมทุกจุดเพื่อไม่ให้บาดมือผู้ใช้งาน