สำหรับผู้จัดการโกดังหรือหัวหน้างานในร้านค้า ชั้นวางของเหล็กอุตสาหกรรม นับเป็นโซลูชันที่มีความแข็งแรงและปรับแต่งได้ตามความต้องการ ช่วยให้สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่แนวตั้งได้อย่างเต็มที่และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษาความปลอดภัยของสินค้า การมองเห็น และการเข้าถึงสินค้าได้อย่างรวดเร็ว
การเลือกประเภทชั้นวางที่เหมาะสม
ประเภทของชั้นวางที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับ รูปแบบการจัดวางโกดัง สินค้าคงคลังและความต้องการด้านซัพพลายเชน ขององค์กร ตัวอย่างเช่น ชิ้นส่วนหนัก เช่น บล็อกเครื่องยนต์ มีความต้องการการรองรับน้ำหนักและความทนทานของชั้นวางแตกต่างจากสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องนุ่งห่ม
องค์ประกอบอื่นๆ เช่น การจัดวางโกดังว่ามีระบบอัตโนมัติหรือไม่ พื้นที่ที่มีอยู่ และปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม จะช่วยกำหนดตัวเลือกชั้นวางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการดำเนินงาน ประเภทของชั้นวางที่สามารถเลือกใช้ได้มีหลากหลาย เช่น ชั้นเหล็กอุตสาหกรรม (Industrial Steel Shelving), ชั้นรอยตะปูเดี่ยว/คู่ (Single/Double Rivet Shelving), ชั้นลวด (Wire Shelving) เป็นต้น
ข้อดีของชั้นวางของเหล็กอุสาหกรรม
ชั้นวางเหล็กอุตสาหกรรม หรือที่เรียกว่า Clip Shelving ช่วยแก้ปัญหาการจัดเก็บหลายลักษณะ เนื่องจากประกอบง่ายและปรับแต่งได้หลากหลาย จึงเป็นทางออกที่มีความยืดหยุ่นสำหรับการบริหารพื้นที่และการจัดเก็บสินค้าคงคลัง
1.ความทนทาน (Durability)
ชั้นวางเหล็กสามารถรองรับการใช้งานหนัก เช่น การโหลดและยกสินค้าด้วยรถโฟล์คลิฟต์หรือระบบหยิบสินค้าอัตโนมัติ ซึ่งอาจทำลายชั้นวางประเภทอื่นได้นอกจากนี้ชั้นเหล็กยังทนต่อสภาพอุณหภูมิที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามควรเลือกชั้นวางที่มีการเคลือบกันสนิมเพื่อป้องกันความชื้นทำให้ไม่เกิดสนิมหรือการกัดกร่อน หลายรุ่นมีการเคลือบผง (Powder Coated) เพื่อเพิ่มความทนทานต่อความชื้น
2.ความแข็งแรง (Strength)
ชั้นวางเหล็กมีความแข็งแรงสูง สามารถรองรับน้ำหนักได้มากกว่าชั้นวางประเภทอื่นๆ จึงเหมาะสำหรับการจัดเก็บสินค้าขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก เช่น ชิ้นส่วนเครื่องจักร เครื่องมือ แผ่นโลหะ วัสดุแท่งหรืออุปกรณ์หนักอื่นๆ ชั้นวางเหล็กช่วยให้สามารถจัดเก็บสินค้าได้อย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงต่อการเสียหายของสินค้าและอุบัติเหตุในโกดัง อย่างไรก็ตาม ชั้นวางปิดที่มีแผงด้านข้างและด้านหลังจะมีน้ำหนักมากและเคลื่อนย้ายได้ยาก จึงควรวางแผนตำแหน่งติดตั้งให้เหมาะสมตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อลดความยุ่งยากในการปรับเปลี่ยน
3.ความยืดหยุ่น (Versatility)
Clip Shelving หรือชั้นวางเหล็กแบบโมดูลาร์สามารถปรับแต่งพื้นที่จัดเก็บได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน ตั้งแต่การติดตั้งลิ้นชักและตู้เก็บของ ไปจนถึงการติดตั้งแผงกั้นประเภทต่างๆเพื่อแบ่งสินค้าตามประเภท ขนาดหรือระดับความสำคัญ นอกจากนี้หากจำเป็นต้องเพิ่มความสามารถในการรับน้ำหนักสามารถเสริมค้ำยันหรือเพิ่มโครงสร้างรองรับเพิ่มเติมได้ ซึ่งช่วยให้ชั้นวางสามารถรองรับสินค้าหลากหลายประเภทและปรับตัวได้ตามการเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงคลัง
4.การมองเห็นสินค้า (Product Visibility)
ชั้นวางเหล็ก โดยเฉพาะแบบเปิดช่วยเพิ่มการมองเห็นสินค้าทำให้เจ้าหน้าที่หยิบสินค้าและผู้ขับรถโฟล์คลิฟต์สามารถมองเห็นสินค้าได้อย่างชัดเจน การเข้าถึงสินค้าจึงสะดวกขึ้น สามารถหยิบหรือจัดเก็บสินค้าได้จากทุกด้านอีกทั้งยังช่วยให้ตรวจสอบจำนวนสินค้าและความเรียบร้อยของคลังได้อย่างรวดเร็ว การมองเห็นสินค้าที่ดีช่วยลดความผิดพลาดในการหยิบสินค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ประเภทชั้นวาง
ในปัจจุบันมีระบบชั้นวางหลายประเภทที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการด้านการจัดเก็บและคุ้มค่าในเชิงเศรษฐกิจแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน
1.ชั้นวางลวด
ชั้นวางลวดทำจากตะแกรงลวด น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับเก็บของขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ไม่เหมาะสำหรับสินค้าหนักมาก จุดเด่นของชั้นวางลวดคือ อากาศถ่ายเทดี ทำให้สินค้าปลอดความชื้นเหมาะสำหรับพื้นที่เก็บของเย็น เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารและโรงงานผลิตอาหาร นอกจากนี้ยังทำความสะอาดง่าย ปรับแต่งได้และบางรุ่นสามารถติดตั้งล้อเพื่อเคลื่อนย้ายได้ทำให้เหมาะกับคลังสินค้าที่ต้องการความยืดหยุ่น
2.ชั้นวางรอยตะปู
ชั้นวางรอยตะปูใช้ตะปูล็อกเข้ากับรูรูปหยดน้ำบนเสาเพื่อให้ความมั่นคงในการรองรับสินค้า ชั้นวางรอยตะปูเดี่ยวเหมาะสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ทั่วไปที่คาดว่าน้ำหนักสินค้าไม่เกิน 300 ปอนด์ ส่วนชั้นรอยตะปูคู่เหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมหรือโกดังที่ต้องรองรับน้ำหนักมากชั้นจะหนาและมีโครงสร้างรองรับสองเท่าทำให้สามารถเก็บของหนักหรือชิ้นส่วนอุตสาหกรรมได้อย่างปลอดภัย
3.ชั้นวางของเหล็ก
ชั้นวางเหล็กอุตสาหกรรมเป็นชั้นวางหนัก (Heavy-Duty Steel) ออกแบบมาเพื่อรองรับสินค้าขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก เช่น ชิ้นส่วนเครื่องจักร อุปกรณ์เครื่องมือหรือพาเลทสินค้าสามารถปรับความสูงของชั้นและติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น ลิ้นชัก ตู้เก็บของหรือแผงกั้น ทำให้เหมาะกับโกดังและโรงงานที่ต้องการเก็บสินค้าหนักและจำนวนมาก
4.ชั้นพาเลท
ชั้นพาเลทถูกออกแบบมาสำหรับการเก็บสินค้าบนพาเลท รองรับน้ำหนักมากเหมาะกับคลังสินค้าอุตสาหกรรมและศูนย์กระจายสินค้า สามารถปรับความสูงของชั้นให้เหมาะสมกับขนาดพาเลทและรถโฟล์คลิฟต์
| ประเภทชั้นวาง | ข้อดี | ข้อจำกัด | การใช้งานที่เหมาะสม |
| ชั้นวางลวด (Wire Shelving) | น้ำหนักเบา, อากาศถ่ายเทดี, ทำความสะอาดง่าย, ปรับแต่งและเคลื่อนย้ายได้ | ไม่เหมาะสำหรับสินค้าหนักมาก | ของขนาดเล็กถึงกลาง, พื้นที่เย็น เช่น ร้านอาหาร, ซูเปอร์มาร์เก็ต, โรงงานอาหาร |
| ชั้นวางรอยตะปู (Rivet Shelving) | ประกอบง่าย, ปรับความสูงชั้นได้, รองรับน้ำหนักปานกลางถึงมาก | ชั้นเดี่ยวรับน้ำหนักจำกัด, ชั้นคู่มีน้ำหนักมากและเคลื่อนย้ายยาก | การใช้งานเชิงพาณิชย์, โกดังขนาดกลางถึงใหญ่ |
| ชั้นวางเหล็กอุตสาหกรรม (Industrial Steel Shelving) | แข็งแรงสูง, รองรับสินค้าหนัก, ปรับแต่งและเสริมค้ำยันได้ | น้ำหนักมาก, ต้องติดตั้งถาวร | โกดัง, โรงงาน, การเก็บชิ้นส่วนเครื่องจักร, อุปกรณ์หนัก |
| ชั้นพาเลท (Pallet Racking) | รองรับน้ำหนักมาก, ใช้กับพาเลทได้โดยตรง, เพิ่มความจุแนวตั้ง | ต้องใช้พื้นที่สูง, ต้องใช้รถโฟล์คลิฟต์ | ศูนย์กระจายสินค้า, โกดังอุตสาหกรรม, สินค้าขนาดใหญ่ |
สรุปง่ายๆ ชั้นวางเหล็กอุตสาหกรรมถือเป็น โซลูชันการจัดเก็บที่ครบวงจรมีความแข็งแรง ปรับแต่งได้สูง ใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าต่อการลงทุนในระยะยาว การพิจารณาประเภทชั้นวาง ขนาด น้ำหนักบรรทุก ความปลอดภัยและการบำรุงรักษา จะช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดเก็บสินค้าคงคลังได้อย่างปลอดภัยมีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการของการดำเนินงานได้อย่างเหมาะสม
ชั้นวางเหล็กอุตสาหกรรมไม่เพียงมีความแข็งแรงและรองรับน้ำหนักสูง แต่ยังมีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับความสูงหรือเพิ่มแผงเสริมได้ตามประเภทสินค้าและพื้นที่จัดเก็บ ช่วยให้การจัดวางสินค้าคงคลังเป็นระเบียบ มองเห็นและเข้าถึงสินค้าได้ง่าย อีกทั้งยังลดความเสี่ยงต่อความเสียหายของสินค้าและอุบัติเหตุในพื้นที่จัดเก็บ
นอกจากนี้ การเลือกชั้นวางให้เหมาะสมกับประเภทสินค้าและลักษณะคลัง สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดเวลาการหยิบและจัดเก็บและช่วยประหยัดพื้นที่โดยรวม ทำให้ชั้นวางเหล็กอุตสาหกรรมเป็นทางเลือกการจัดเก็บที่คุ้มค่าและยั่งยืนสำหรับธุรกิจทุกประเภท
ขอบคุณข้อมูลจาก: WORKPLAC Material Handling & Safety