ไอเดียเลือกของใช้ในบ้านให้เข้ากับสไตล์มินิมอล

บ้านสไตล์มินิมอลไม่ใช่แค่บ้านที่มีของน้อยแต่คือการเลือกของใช้ทุกชิ้นอย่างตั้งใจ เพื่อให้ทั้งสวยตาใช้งานได้จริงและไม่สร้างความรกให้พื้นที่หลักสำคัญของการเลือกคือ “น้อยแต่ครบ”หมายความว่าทุกชิ้นต้องตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของบ้านจริงๆ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับโทนสีและวัสดุโดยมักใช้สีอ่อนหรือสีเอิร์ธโทนเช่น ขาวหรือครีมหรือน้ำตาลอ่อน เพื่อสร้างความรู้สึกสงบและอบอุ่นส่วนวัสดุอย่างไม้ธรรมชาติหรือโลหะด้านหรือผ้าฝ้าย-ลินินจะช่วยเพิ่มความเป็นธรรมชาติและสัมผัสที่นุ่มนวล

การจัดวางก็สำคัญไม่แพ้กันของใช้ควรมีตำแหน่งที่แน่นอนไม่วางเกะกะและควรเลือกของที่สามารถใช้งานได้หลายแบบเช่น โต๊ะกลางที่มีช่องเก็บของหรือเก้าอี้ที่ใช้เป็นชั้นวางชั่วคราวได้เพื่อประหยัดพื้นที่ เมื่อทุกอย่างถูกเลือกและจัดอย่างมีเจตนาบ้านก็จะไม่ใช่แค่“ที่อยู่อาศัย”แต่จะกลายเป็นพื้นที่ที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายใช้ชีวิตได้อย่างเรียบง่ายและเต็มไปด้วยสิ่งที่เราชอบจริงๆ

1.เลือกสีโทนเรียบและธรรมชาติ
สีคือหัวใจหลักของการสร้างบรรยากาศบ้านสไตล์มินิมอลเพราะโทนสีที่เราเลือกจะส่งผลต่อความรู้สึกของผู้อยู่อาศัยโดยตรง

  • โทนสีที่ควรใช้ ได้แก่ ขาว,ครีม,เทา,เบจหรือสีไม้โทนอ่อน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้บ้านดูสว่างโปร่งและโล่งตา นอกจากนี้ยังสร้างความรู้สึกสงบเรียบง่ายและไม่รกสายตา
  • เหตุผลที่โทนสีเหล่านี้เหมาะกับมินิมอล สีโทนเรียบและธรรมชาติสามารถทำงานร่วมกันได้ดีโดยไม่แย่งความเด่นซึ่งกันและกันทำให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์หรือของใช้ในบ้านดูมีความกลมกลืน
  • เคล็ดลับการเลือกสีของใช้ ควรเลือกของใช้ที่มีสีอยู่ในกลุ่มโทนเดียวกัน(เช่น ถ้าพื้นบ้านเป็นไม้สีอ่อน ควรใช้โต๊ะหรือเก้าอี้ไม้สีใกล้เคียง)เพื่อให้ภาพรวมดูเป็นเอกภาพ
  • เทคนิคเล็กๆ อาจใช้สีเข้มเพียงเล็กน้อยในบางจุดเช่น หมอนอิงสีเทาเข้มหรือแจกันสีดำด้าน เพื่อสร้างมิติและความน่าสนใจโดยไม่ทำลายความเรียบง่ายของมินิมอล

2.ของใช้น้อยชิ้นแต่มีคุณภาพ
การเลือกของใช้ในบ้านสไตล์มินิมอลเน้นที่คุณภาพมากกว่าปริมาณเพราะของน้อยชิ้นแต่ดีจะช่วยลดความยุ่งเหยิงและทำให้บ้านดูเรียบร้อยกว่าเยอะ

  • ไม่ต้องมีเยอะแต่ต้องตอบโจทย์ แทนที่จะซื้อของมาหลายชิ้นที่ใช้งานไม่เต็มที่ลองมองหาชิ้นที่ทำหน้าที่ได้ครบเช่น โซฟาขนาดกะทัดรัดที่นั่งสบายและเหมาะกับพื้นที่บ้านโต๊ะกลางที่มีลิ้นชักหรือช่องเก็บของเพื่อเก็บของใช้จุกจิกไม่ให้รกสายตาหรือชั้นวางที่ดีไซน์สวยงามและสามารถโชว์ของแต่งบ้านได้พร้อมกัน
  • ประโยชน์ของการเลือกของคุณภาพ ของคุณภาพดีมักทนทานใช้งานได้นานลดความจำเป็นต้องซื้อใหม่บ่อยๆซึ่งช่วยประหยัดเงินและลดขยะที่เกิดจากการทิ้งของเก่า
  • สร้างบรรยากาศเรียบร้อย ของน้อยชิ้นแต่คุณภาพดีจะทำให้บ้านดูมีรสนิยมและเป็นระเบียบเพราะไม่มีของใช้มากเกินไปมาบดบังพื้นที่หรือสายตา
  • ง่ายต่อการดูแลรักษา เมื่อมีของไม่เยอะการทำความสะอาดและดูแลรักษาก็ง่ายขึ้นมากทำให้บ้านดูสะอาดตาและน่าอยู่ตลอดเวลา

3.ใช้เฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชัน
เฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชันคือชิ้นที่ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงอย่างเดียวแต่สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบในตัวเดียวซึ่งเหมาะมากกับบ้านสไตล์มินิมอลและพื้นที่จำกัดอย่างคอนโดเพราะช่วยลดจำนวนชิ้นของเฟอร์นิเจอร์ทำให้บ้านดูโล่งและจัดการง่ายขึ้น

  • เตียงพร้อมลิ้นชักเก็บของ เตียงที่มีลิ้นชักซ่อนใต้เตียงช่วยให้เก็บของได้มากขึ้นเช่น ผ้าห่ม หมอนหรือของใช้ส่วนตัวโดยไม่ต้องหาโต๊ะหรือชั้นเก็บเพิ่มช่วยประหยัดพื้นที่และลดความรกได้ดี
  • โต๊ะพับติดผนัง โต๊ะพับเป็นไอเดียที่ดีสำหรับพื้นที่จำกัดเมื่อไม่ใช้งานสามารถพับเก็บติดผนังได้ทันทีทำให้พื้นที่ว่างเพิ่มขึ้นเหมาะกับการทำงานหรือกินข้าวในมุมเล็ก
  • เก้าอี้ที่ซ้อนเก็บได้ เก้าอี้แบบนี้ช่วยประหยัดพื้นที่เวลาที่ไม่ได้ใช้งานโดยเก็บซ้อนได้เป็นกองเล็กๆใช้งานเมื่อต้องการเท่านั้นเหมาะกับบ้านที่ชอบจัดปาร์ตี้หรือต้อนรับแขกเป็นครั้งคราว
  • เฟอร์นิเจอร์ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ อย่างเช่น โซฟาเบดที่เปลี่ยนจากโซฟาเป็นเตียงได้หรือโต๊ะกลางที่ยกสูงขึ้นเป็นโต๊ะทานอาหารได้ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานและลดจำนวนชิ้นที่ต้องซื้อ

4.เลือกวัสดุธรรมชาติและทนทาน
การเลือกวัสดุสำหรับของใช้ในบ้านสไตล์มินิมอลมีความสำคัญมากเพราะนอกจากจะส่งผลต่อความสวยงามโดยรวมแล้วยังสะท้อนถึงการใช้ชีวิตที่ใส่ใจและยั่งยืน

  • ไม้ ไม้เป็นวัสดุธรรมชาติที่เพิ่มความอบอุ่นและความรู้สึกเป็นมิตรให้กับบ้านไม่ว่าจะเป็นไม้จริงหรือไม้โอ๊คหรือไม้สัก เนื้อไม้ที่มีลายธรรมชาติและโทนอ่อนช่วยให้บ้านดูนุ่มนวลและไม่แข็งกระด้างไม้ยังทนทานต่อการใช้งานหากดูแลรักษาดีๆจะอยู่ได้นานหลายปีทำให้ลดการเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บ่อย ๆ
  • ผ้าฝ้ายและผ้าลินิน ผ้าธรรมชาติอย่างผ้าฝ้ายและผ้าลินินมีสัมผัสนุ่มสบายไม่ระคายเคืองผิวและมีความโปร่งที่ช่วยให้รู้สึกเย็นสบายเหมาะกับการใช้ทำปลอกหมอน ผ้าห่มหรือผ้าม่านผ้าทั้งสองชนิดนี้ยังทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนานหากซักและดูแลอย่างถูกวิธีจะรักษาคุณภาพได้ดี
  • โลหะด้าน โลหะด้านเช่น เหล็กเคลือบหรืออลูมิเนียมสีด้านช่วยเติมความทันสมัยและเท่ให้กับบ้านมินิมอล โดยไม่ทำให้รู้สึกเย็นหรือแข็งจนเกินไปวัสดุประเภทนี้แข็งแรงทนทานต่อการใช้งานและไม่ต้องดูแลมากทำให้เหมาะกับของใช้และเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องรับน้ำหนักหรือใช้บ่อย
  • เซรามิกสีพื้น เซรามิกสีพื้นหรือโทนสีเอิร์ธโทนช่วยเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติเหมาะสำหรับของตกแต่งเช่น แจกัน กระถางหรือถ้วยจานเซรามิกเป็นวัสดุที่ทนทานไม่เปราะบางง่ายและสามารถดูแลรักษาได้ง่ายโดยการเช็ดทำความสะอาด

5.ตกแต่งเท่าที่จำเป็น
ในบ้านสไตล์มินิมอลการตกแต่งไม่ใช่การใส่ของเต็มไปหมดแต่คือการเลือกชิ้นที่มีคุณค่าและสร้างความรู้สึกดีทุกชิ้นต้องมีความหมายหรือฟังก์ชันที่ชัดเจนไม่ใช่แค่ของประดับอย่างเดียว

  • เน้นของที่สื่อถึงตัวตนหรือความทรงจำ เช่น กรอบรูปครอบครัว ภาพถ่ายที่มีความหมายหรือของที่สะท้อนความชอบและไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านช่วยให้บ้านดูอบอุ่นและมีชีวิตชีวา
  • เลือกของตกแต่งที่เรียบง่ายและมีดีไซน์สงบตา เช่น แจกันดอกไม้แห้งสีเอิร์ธโทน ที่ดูธรรมชาติและเข้ากับโทนสีของบ้านหรือนาฬิกาแขวนผนังดีไซน์เรียบๆ ที่นอกจากจะบอกเวลาแล้วยังเป็นงานศิลป์ที่ไม่เกะกะสายตา
  • หลีกเลี่ยงของตกแต่งที่มากเกินไปหรือลวดลายซับซ้อน ของเยอะเกินไปจะทำให้บ้านดูวุ่นวายและขัดกับแนวคิดมินิมอลที่เน้นความสงบและความเรียบง่าย
  • สร้างพื้นที่ว่างในบ้านให้มีความหมาย การเว้นที่ว่างในบ้านช่วยให้มองเห็นของตกแต่งชิ้นสำคัญชัดเจนขึ้นและทำให้บ้านดูโปร่งไม่อึดอัด
  • เลือกชิ้นที่มีฟังก์ชันคู่ เช่น โคมไฟที่เป็นของตกแต่งได้ดีหรือถาดรองที่ใช้เก็บของจุกจิกไปในตัวช่วยประหยัดพื้นที่และลดจำนวนของตกแต่งที่จำเป็น

6.จัดเก็บให้โล่งและเป็นระเบียบ
แม้ของใช้หรือของตกแต่งจะสวยงามและมีดีไซน์มินิมอลแค่ไหนแต่ถ้าวางวางเกะกะหรือวางไม่เป็นระเบียบก็จะทำลายความเรียบง่ายและความสงบของบ้านสไตล์มินิมอลทันที

  • ใช้ตู้บานทึบซ่อนของไม่จำเป็น ตู้ที่มีบานทึบช่วยเก็บของที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆหรือของที่ไม่อยากให้เห็นเช่น เอกสาร เสื้อผ้าสำรองหรือของจุกจิกช่วยลดความวุ่นวายและทำให้บ้านดูสะอาดตา
  • กล่องเก็บของแบ่งหมวดหมู่ การใช้กล่องเก็บของที่มีขนาดพอดีกับพื้นที่เช่น กล่องใส่ของใต้เตียงหรือกล่องใส่ของในตู้จะช่วยให้ของไม่กระจายเต็มไปหมดทำให้หาใช้งานง่ายและเก็บได้ไว
  • ชั้นวางแบบปิดหรือมีช่องเก็บของ ชั้นวางที่ออกแบบให้มีช่องซ่อนหรือบานปิดสามารถจัดเก็บสิ่งของที่ต้องการได้โดยไม่เผยให้เห็นของรกทำให้บ้านดูเรียบร้อยและเป็นระเบียบ
  • จัดวางของใช้ให้มีตำแหน่งชัดเจน กำหนดที่เก็บของแต่ละชนิดอย่างชัดเจนทำให้เวลาจะใช้หรือเก็บกลับง่าย และช่วยป้องกันไม่ให้ของวางเกลื่อนกลาดตามพื้นหรือโต๊ะ

การเลือกของใช้ให้เข้ากับบ้านสไตล์มินิมอลนั้นไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามเพียงอย่างเดียวแต่เป็นการใส่ใจในทุกแง่มุมทั้งเรื่องสีสันที่ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นและสงบ วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและทนทาน ดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวันทุกชิ้นของใช้จึงต้องถูกเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน

เมื่อบ้านได้รับการจัดวางด้วยความตั้งใจเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะดูเรียบร้อยและสวยงามในทุกมุมมองแต่ยังช่วยให้การใช้ชีวิตเป็นไปอย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะทุกอย่างถูกวางไว้อย่างเป็นระบบและเข้าถึงได้ง่ายไม่รกไม่เกะกะและไม่สร้างความกังวลใจ

บ้านแบบนี้จึงกลายเป็นพื้นที่พักผ่อนที่แท้จริงที่ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยแต่เป็นที่ที่ช่วยเติมพลังและสร้างความสุขใจให้กับผู้อยู่อาศัยในทุกวันความเรียบง่ายที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดีนี้ จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้บ้านมินิมอลเป็นมากกว่าบ้านทั่วไปแต่คือบ้านที่อยู่แล้วสบายใจอย่างแท้จริง

Leave a Comment